ผลสำรวจของสำนักข่าวรอยเตอร์/อิปซอสส์ (Reuters/Ipsos) เผยให้เห็นว่า คะแนนนิยมของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ลดลงเล็กน้อย เนื่องจากชาวอเมริกันกังวลเกี่ยวกับทิศทางของเศรษฐกิจสหรัฐฯ หลังจากทรัมป์ขู่ขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากหลายประเทศ
ผลสำรวจออนไลน์จัดทำขึ้นระหว่างวันที่ 13-18 ก.พ. โดยสำรวจผู้ใหญ่ชาวอเมริกันจำนวน 4,145 คนทั่วประเทศ ซึ่งปรากฏว่า ผู้ตอบแบบสำรวจ 44% ยอมรับผลงานของทรัมป์ ลดลงเล็กน้อยจาก 45% ในผลสำรวจระหว่างวันที่ 24-26 ม.ค. และลดลงจาก 47% ในผลสำรวจระหว่างวันที่ 20-21 ม.ค. หรือไม่กี่ชั่วโมงหลังจากที่ทรัมป์กลับเข้าสู่ทำเนียบขาว
ในผลสำรวจล่าสุด ผู้ตอบแบบสำรวจ 51% ไม่ยอมรับการทำงานของทรัมป์ เพิ่มขึ้นอย่างมากจาก 41% ในผลสำรวจไม่กี่ชั่วโมงหลังจากที่ทรัมป์เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดี
ทรัมป์ได้รับคะแนนนิยมค่อนข้างสูงในส่วนของนโยบายผู้อพยพ โดยผู้ตอบแบบสำรวจ 47% สนับสนุนแนวทางของเขา ซึ่งรวมถึงการที่เขาให้คำมั่นสัญญาว่าจะเร่งเนรเทศผู้อพยพเข้าประเทศอย่างผิดกฎหมาย โดยคะแนนนิยมในส่วนนี้แทบไม่เปลี่ยนแปลงจากผลสำรวจเมื่อเดือนม.ค.
อย่างไรก็ตาม ผู้ตอบแบบสำรวจมากถึง 53% มองว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ กำลังดำเนินไปในทิศทางที่ผิดพลาด เพิ่มขึ้นอย่างมากจาก 43% ในผลสำรวจระหว่างวันที่ 24-26 ม.ค. ขณะเดียวกัน มีผู้ตอบแบบสำรวจเพียง 39% ที่ยอมรับการบริหารงานด้านเศรษฐกิจของทรัมป์ ลดลงจาก 43% ในการสำรวจครั้งก่อน
ผู้ตอบแบบสำรวจ 54% ไม่เห็นด้วยที่ทรัมป์ขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากประเทศอื่น ขณะที่ 41% เห็นด้วย ส่วนการขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากประเทศจีนนั้น ผู้ตอบแบบสำรวจ 49% เห็นด้วย และ 47% ไม่เห็นด้วย