ผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนหน้าคูหาเลือกตั้งหรือเอ็กซิตโพล (Exit Poll) บ่งชี้ว่า พรรคสหภาพประชาธิปไตยคริสเตียน (CDU)/พรรคสหภาพสังคมคริสเตียน (CSU) ซึ่งเป็นพรรคอนุรักษ์นิยม คว้าชัยชนะในการเลือกตั้งสภาผู้แทนราษฎร (Bundestag) ในวันอาทิตย์ (23 ก.พ.)
เอ็กซิตโพลซึ่งจัดทำโดยสถานีโทรทัศน์เออาร์ดี (ARD) ของเยอรมนีระบุว่า พรรค CDU/CSU ได้คะแนนเสียง 28.5% ตามด้วยพรรคทางเลือกเพื่อเยอรมนี (AfD) ได้ไป 20.6% และพรรคสังคมประชาธิปไตย (SPD) ได้ไป 16.5%
ส่วนพรรคกรีน (Greens) ได้คะแนน 11.8% ขณะที่พรรคเสรีประชาธิปไตย (FDP) ได้คะแนนเพียง 4.4%
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ผลการเลือกตั้งครั้งนี้จะเป็นตัวกำหนดทิศทางของสภาผู้แทนราษฎร โดยพรรคการเมืองจะต้องได้รับคะแนนเสียงอย่างน้อย 5% ของคะแนนเสียงทั่วประเทศจึงจะได้ที่นั่งในสภาผู้แทนราษฎร
รายงานของสถานีโทรทัศน์เออาร์ดีระบุว่า จำนวนผู้มาใช้สิทธิ์เลือกตั้งครั้งนี้สูงถึง 84% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2533 โดยรัฐสภาชุดใหม่ที่ได้รับเลือกตั้งนั้นจะเป็นผู้เลือกนายกรัฐมนตรีคนต่อไปของเยอรมนี หลังจากมีการเจรจาจัดตั้งรัฐบาลผสมระหว่างพรรคต่าง ๆ
ฟรีดริช แมร์ซ ผู้สมัครชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีจากพรรค CDU/CSU ให้คำมั่นว่าจะเร่งดำเนินการจัดตั้งรัฐบาลใหม่โดยเร็ว
"คืนนี้เราจะฉลอง และพรุ่งนี้เราจะเริ่มทำงาน เพราะโลกภายนอกไม่ได้รอเรา" แมร์ซกล่าวหลังจากรู้ผลเอ็กซิตโพล
ทางด้านโอลาฟ โชลซ์ นายกรัฐมนตรีเยอรมนี ได้ประกาศยอมรับความพ่ายแพ้ครั้งประวัติศาสตร์ของพรรค SPD และกล่าวว่าเขาจะยังคงอยู่ในตำแหน่งจนกว่าจะมีการจัดตั้งรัฐบาลผสมชุดใหม่
ทั้งนี้ รัฐบาลเยอรมนี ซึ่งประกอบด้วยพรรค SPD, พรรคกรีน และพรรค FDP ได้ล่มสลายในช่วงต้นเดือนพ.ย. 2567 หลังจากที่นายกรัฐมนตรีโอลาฟ โชลซ์ ประกาศปลดคริสเตียน ลินด์เนอร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังออกจากตำแหน่ง ส่งผลให้พรรค FDP ถอนตัวจากพรรคร่วมรัฐบาล และทำให้รัฐบาลของโชลซ์กลายเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อยในสภา