รัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้การนำของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้สั่งพักงานแบบจ่ายเงินเดือนเจ้าหน้าที่องค์การเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศของสหรัฐฯ (USAID) เกือบทั้งหมดทั่วโลก และเตรียมเลิกจ้างพนักงานราว 2,000 ตำแหน่งในสหรัฐฯ
ประกาศที่ส่งถึงพนักงานของ USAID ในวันอาทิตย์ (23 ก.พ.) ระบุว่า ก่อนเวลาเที่ยงคืนวันอาทิตย์ตามเวลาฝั่งตะวันออกของสหรัฐฯ พนักงานของ USAID ทุกคนที่ได้รับการว่าจ้างโดยตรง ยกเว้นพนักงานที่มีหน้าที่สำคัญ จะถูกพักงาน ขณะเดียวกัน USAID กำลังเริ่มดำเนินการลดจำนวนพนักงาน ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อเจ้าหน้าที่ USAID ราว 2,000 คนในสหรัฐฯ
อีลอน มัสก์ ผู้นำกระทรวงประสิทธิภาพรัฐบาล (DOGE) กำลังพยายามยกเครื่อง USAID ซึ่งเป็นกลไกหลักของสหรัฐฯ ในการมอบความช่วยเหลือแก่ต่างชาติ และเป็นเครื่องมือ "ซอฟต์พาวเวอร์" ที่สำคัญของสหรัฐฯ ในการขยายอิทธิพลไปทั่วโลก
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (21 ก.พ.) ผู้พิพากษาศาลส่วนกลางแห่งสหรัฐฯ ได้เปิดทางให้รัฐบาลของทรัมป์สามารถสั่งพักงานพนักงาน USAID หลายพันชีวิตได้
อดีตเจ้าหน้าที่อาวุโสของ USAID สองคนคาดการณ์ว่า เจ้าหน้าที่ USAID ส่วนใหญ่จากราว 4,600 คนซึ่งเป็นพนักงานราชการพลเรือนและเจ้าหน้าที่การต่างประเทศ จะถูกพักงาน
ทั้งนี้ ไม่นานหลังเข้ารับตำแหน่งปธ.สหรัฐฯ ทรัมป์ได้สั่งระงับการมอบความช่วยเหลือให้แก่ต่างชาติเป็นระยะเวลา 90 วัน โดยระงับการมอบเงินทุนสนับสนุนทุกโครงการ ตั้งแต่โครงการต่อสู้กับความอดอยากและโรคร้าย ไปจนถึงโครงการจัดหาที่พักพิงให้แก่ผู้พลัดถิ่นหลายล้านคนทั่วโลก