จีนเรียกร้องให้สหรัฐอเมริกาหยุดนำประเด็นทางเศรษฐกิจและการค้ามาใช้เป็นเครื่องมือทางการเมืองและใช้เป็นอาวุธโจมตีผู้อื่น ในขณะที่สหรัฐฯ พยายามจำกัดการลงทุนในต่างประเทศของจีน ซึ่งเป็นไปตามนโยบาย "อเมริกาต้องมาก่อน" (America First) ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
กระทรวงพาณิชย์จีนแถลงในวันนี้ (24 ก.พ.) ว่า การที่รัฐบาลสหรัฐฯ ยกระดับการตรวจสอบความสัมพันธ์ทางธุรกิจระหว่างบริษัทสหรัฐฯ กับบริษัทจีนโดยอ้างเหตุผลด้านความมั่นคงนั้น จะบ่อนทำลายความเชื่อมั่นของบริษัทจีนที่กำลังลงทุนในสหรัฐฯ อย่างร้ายแรง
กระทรวงพาณิชย์จีนมีถ้อยแถลงดังกล่าวหลังจากที่สหรัฐฯ เปิดเผยนโยบายการลงทุนอเมริกาต้องมาก่อน (America First Investment Policy) ซึ่งระบุว่า จีนเป็นหนึ่งใน "ปรปักษ์" ที่คอยกำกับและสนับสนุนการลงทุนในบริษัทและสินทรัพย์ของสหรัฐฯ อย่างเป็นระบบ "เพื่อให้ได้มาซึ่งเทคโนโลยีขั้นสูง ทรัพย์สินทางปัญญา และอิทธิพลในอุตสาหกรรมที่มีความสำคัญเชิงยุทธศาสตร์"
กระทรวงฯ ยังกล่าวอีกว่า การที่สหรัฐฯ เสนอมาตรการคุมเข้มอุตสาหกรรมการเดินเรือ โลจิสติกส์ และการต่อเรือของจีน ถือเป็นอันตรายต่อประเทศอื่นและสหรัฐฯ เอง พร้อมเรียกร้องให้สหรัฐฯ เคารพข้อเท็จจริงและกฎพหุภาคี ตลอดจน "หยุดการกระทำที่ไม่ถูกต้อง"
โฆษกกระทรวงฯ ระบุว่า จีนจะติดตามความเคลื่อนไหวของสหรัฐฯ อย่างใกล้ชิด และดำเนินมาตรการที่จำเป็นเพื่อปกป้องสิทธิและผลประโยชน์อันชอบธรรมของจีน
ก่อนหน้านี้ ปธน.ทรัมป์เคยส่งสัญญาณถึงความเป็นไปได้ในการบรรลุข้อตกลงกับจีนเพื่อป้องกันไม่ให้สงครามการค้าทวีความรุนแรงมากขึ้น แต่การที่จีนเกินดุลการค้ากับสหรัฐฯ สูงถึง 2.95 แสนล้านดอลลาร์ ยังคงเป็นข้อกังวลหลักของรัฐบาลสหรัฐฯ ชุดใหม่