สหราชอาณาจักร (UK) ประกาศคว่ำบาตรบริษัทจีน 10 แห่ง ซึ่งถูกระบุว่ามีส่วนสนับสนุนอุตสาหกรรมกลาโหมของรัสเซีย โดยเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการทางเศรษฐกิจชุดใหญ่เพื่อต่อต้านระบอบประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย นับตั้งแต่ปี 2565
กระทรวงการต่างประเทศของ UK แถลงว่า มาตรการคว่ำบาตรชุดใหม่มุ่งเป้าไปยังผู้ที่ให้การสนับสนุนกองทัพรัสเซีย และเครือข่ายผู้จัดหาสินค้าที่รัสเซียพึ่งพา โดยบริษัทเหล่านี้ส่วนใหญ่ผลิตและจัดหาเครื่องมือ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และสินค้าที่ใช้ได้สองทาง (สินค้าที่นำไปใช้ได้ทั้งในทางพลเรือนและทางทหาร) ให้แก่กองทัพรัสเซีย ซึ่งรวมถึงไมโครโปรเซสเซอร์ที่ใช้ในระบบอาวุธ
การคว่ำบาตรครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อแสดงให้เห็นว่า UK ยกระดับการสนับสนุนยูเครน ในขณะที่ปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ส่งสัญญาณว่าต้องการเลิกสนับสนุนยูเครน
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า เคียร์ สตาร์เมอร์ นายกรัฐมนตรี UK เตรียมพบกับปธน.ทรัมป์ ณ ทำเนียบขาว ในวันพฤหัสบดี (27 ก.พ.) โดยเขาตั้งใจว่าจะโน้มน้าวทรัมป์ไม่ให้รีบเร่งเจรจากับรัสเซียโดยไม่ได้รับความยินยอมจากยูเครน และให้สหรัฐฯ รับรองความมั่นคงภายใต้ข้อตกลงสันติภาพหลังสงคราม
สตาร์เมอร์กำลังเผชิญกับแรงกดดันทั้งจากทรัมป์และผู้นำกองทัพ UK ที่ต้องการให้เร่งเพิ่มงบประมาณด้านกลาโหม
นอกจากนี้ UK ยังประกาศคว่ำบาตร โน กวังชอล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเกาหลีเหนือ และนายพลคนอื่น ๆ ของเกาหลีเหนือ จากการส่งทหารเกาหลีเหนือ 11,000 นายไปช่วยรัสเซียสู้รบ รวมถึงประกาศคว่ำบาตรธนาคาร OJSC Keremet Bank ของคีร์กีซสถาน
เดวิด แลมมี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของ UK กล่าวว่า "ในขณะที่โลกกำลังก้าวเข้าสู่ปีที่ 4 ของการที่ปูตินบุกยูเครนเต็มรูปแบบ เราไม่อาจหันหลังและจะไม่หันหลังให้กับยูเครนในการต่อสู้เพื่อความมั่นคงร่วมกันของเรา"