ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ เปิดเผยเมื่อวานนี้ (25 ก.พ.) ว่า ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน มีแผนจะเดินทางมาเยือนสหรัฐฯ ในวันศุกร์นี้ (28 ก.พ.) เพื่อลงนามในข้อตกลงเกี่ยวกับแร่ธาตุหายากระหว่างสองประเทศ
ทรัมป์กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า "แน่นอนว่าผมยินดีหากเขาต้องการจะมา" โดยข้อตกลงนี้จะเปิดทางให้สหรัฐฯ เข้าถึงแร่หายากและแร่ธาตุอื่น ๆ ของยูเครน เพื่อชดเชยความช่วยเหลือที่สหรัฐฯ ได้มอบให้ยูเครนนับตั้งแต่เกิดสงครามกับรัสเซียในปี 2565
ทรัมป์เน้นย้ำว่า "เราต้องการเงินคืน" โดยมองว่าข้อตกลงนี้เป็นเงื่อนไขสำคัญก่อนที่การเจรจาสันติภาพกับรัสเซียจะสามารถคืบหน้าต่อไปได้
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ในช่วงที่ผ่านมา ทรัมป์แสดงความไม่พอใจที่เซเลนสกีไม่ยอมรับข้อเสนอเบื้องต้นของสหรัฐฯ เกี่ยวกับแร่ธาตุ ถึงขั้นเรียกผู้นำยูเครนว่าเป็น "เผด็จการ"
ด้านปธน.เอ็มมานูเอล มาครง แห่งฝรั่งเศส ซึ่งเพิ่งพบกับทรัมป์ที่ทำเนียบขาว ได้แสดงความกังวลว่า "สันติภาพต้องไม่เป็นการยอมจำนนของยูเครน" และยืนยันว่า ยุโรปพร้อมส่งกองกำลังรักษาสันติภาพไปยังยูเครนหลังจากมีการลงนามในข้อตกลงสันติภาพ
รายงานจากไฟแนนเชียล ไทม์ส ระบุว่า หลังจากสหรัฐฯ ยกเลิกข้อเรียกร้องแร่ธาตุมูลค่า 5 แสนล้านดอลลาร์จากยูเครน ทั้งสองประเทศวางแผนจะจัดตั้งกองทุนเพื่อพัฒนาทรัพยากรแร่ธาตุร่วมกัน โดยยูเครนจะสมทบรายได้ 50% จากทรัพยากรแร่ธาตุของรัฐเข้ากองทุนดังกล่าว
ข้อตกลงนี้ถือเป็นความพยายามของรัฐบาลทรัมป์ในการหาทางยุติสงครามที่ดำเนินมาเป็นเวลา 3 ปีแล้ว แต่ยังคงมีคำถามเกี่ยวกับหลักประกันด้านความมั่นคงสำหรับยูเครนในอนาคต