เม็กซิโกส่งตัวผู้ต้องหาคดีลักลอบขนยาเสพติดและคดีอาญาอื่น ๆ รวม 29 คนไปดำเนินคดีในสหรัฐฯ ขณะที่พยายามจะปฏิบัติตามเงื่อนไขของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกเก็บภาษีนำเข้า
กระทรวงความมั่นคงของเม็กซิโกระบุในแถลงการณ์ว่า การส่งผู้ร้ายข้ามแดนเกิดขึ้นในช่วงเช้าวันพฤหัสบดี (27 ก.พ.) ก่อนที่ฮวน ราโมน เด ลา ฟูเอนเต รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศและเจ้าหน้าที่ระดับสูงจากกระทรวงการทหารและความมั่นคงของเม็กซิโกจะพบปะกับมาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ที่กรุงวอชิงตัน เพื่อเจรจาในช่วงบ่ายวันเดียวกัน
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ทรัมป์ได้เรียกร้องให้ทั้งเม็กซิโกและแคนาดาพยายามมากขึ้นในการสกัดกั้นการขนยาเสพติดและผู้อพยพเข้าสู่สหรัฐฯ มิเช่นนั้นจะโดนเรียกเก็บภาษีศุลกากร 25% ซึ่งแต่เดิมกำหนดไว้ในวันที่ 1 ก.พ. แต่ทำเนียบขาวได้เลื่อนการบังคับใช้ภาษีดังกล่าวออกไปเป็นเวลาหนึ่งเดือน
รัฐบาลเม็กซิโกระบุในแถลงการณ์ว่า ราฟาเอล คาโร กินเตโร ผู้ถูกกล่าวหาโดยสหรัฐฯว่า สังหารเจ้าหน้าที่สำนักงานปราบปรามยาเสพติดในคดีสำคัญช่วงทศวรรษ 1980 เป็นหนึ่งในผู้ที่ถูกส่งตัวข้ามแดน
การส่งตัวคาโร กินเตโรข้ามแดนดังกล่าวได้รับการรายงานก่อนหน้านี้โดยคาร์ลอส โลเรต เด โมลา นักข่าวชาวเม็กซิโก
รัฐบาลเม็กซิโกระบุว่า บุคคลเหล่านี้จะถูกส่งตัวไปยังรัฐเท็กซัส นิวยอร์ก แอริโซนา อิลลินอยส์ และวอชิงตัน ดี.ซี. นอกจากนี้ กระทรวงยุติธรรมของสหรัฐฯ ยังยืนยันการส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน ซึ่งรวมถึงคาโร กินเตโรด้วย
ทั้งนี้ เม็กซิโกเร่งตอบสนองความต้องการของทรัมป์นับตั้งแต่ที่มีการเลื่อนเก็บภาษีนำเข้าสินค้าในช่วงต้นเดือนนี้ อย่างไรก็ตาม ทรัมป์กล่าวเมื่อวันพฤหัสบดีว่า ภาษีนำเข้า 25% กำลังจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 4 มี.ค. ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของเม็กซิโกอย่างมาก ขณะเดียวกันรัฐมนตรีกระทรวงการคลังและรัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจของเม็กซิโกยังคงอยู่ในวอชิงตันเพื่อเดินหน้าความพยายามของประเทศต่อไป