การเจรจาระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ กับประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกีแห่งยูเครนในวันศุกร์ (28 ก.พ.) ประสบความล้มเหลว หลังจากที่การหารือเกี่ยวกับวิธีการรับมือกับรัสเซียกลายเป็นการโต้เถียงกันอย่างรุนแรงต่อหน้าสื่อ ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ตึงเครียดที่ไม่ค่อยพบเห็นในแวดวงการทูต
การโต้เถียงระหว่างทรัมป์และเซเลนสกี ซึ่งอาจเป็นเรื่องที่ดีสำหรับรัสเซียนั้น อาจทำให้ความพยายามในการยุติสงครามที่ยาวนาน 3 ปีในยูเครนยากลำบากขึ้น และอาจส่งผลกระทบไม่เพียงแค่อนาคตของยูเครนเท่านั้น
ทรัมป์บอกกับนักข่าวหลังจากการประชุมว่า เขาเชื่อว่าเซเลนสกีไม่ต้องการการหยุดยิง และเซเลนสกีทำเกินไป นอกจากนี้ ทรัมป์ยังกล่าวก่อนที่จะเดินทางไปฟลอริดาในช่วงสุดสัปดาห์นี้ว่า เขาไม่สามารถกลับไปพูดคุยกับเซเลนสกีได้อีกอย่างน้อยในอนาคตอันใกล้นี้
ทรัมป์ระบุในโพสต์บนโซเชียลมีเดียว่า เขารู้สึกว่า เซเลนสกี "ยังไม่พร้อม" สำหรับสันติภาพ หากสหรัฐฯ มีส่วนเกี่ยวข้อง
"เขาไม่ได้ให้ความเคารพสหรัฐอเมริกาในห้องทำงานรูปไข่นี้" ทรัมป์กล่าวหลังจากการพบปะกับเซเลนสกีแบบตัวต่อตัวเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ทรัมป์กลับมารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ อีกครั้ง
เซเลนสกีเดินทางออกจากทำเนียบขาวก่อนเวลาที่กำหนดไว้ โดยไม่ได้ลงนามในข้อตกลงแร่ธาตุที่หลายคนคาดหวัง หรือเข้าร่วมการแถลงข่าวกับทรัมป์
ในโพสต์สั้น ๆ บน X นั้น เซเลนสกีระบุว่า "ยูเครนต้องการสันติภาพที่ยุติธรรมและยั่งยืน และเรากำลังทำงานเพื่อสิ่งนี้" หลังจากที่เขาได้แสดงความขอบคุณต่อสหรัฐฯ
ไม่นานหลังจากโพสต์นั้น ผู้นำยุโรปหลายคนใช้โซเชียลมีเดียเพื่อแสดงการสนับสนุนยูเครน โดยหลายคนกล่าวว่าไม่ควรสงสัยเลยว่า รัสเซียเป็นฝ่ายเริ่มความขัดแย้ง
ขณะที่เซเลนสกีขอคำมั่นสัญญาด้านความมั่นคงที่ชัดเจนจากสหรัฐฯ ทรัมป์และรองประธานาธิบดีเจดี แวนซ์ เริ่มรู้สึกไม่พอใจเมื่อฟังเซเลนสกีพูดภาษาอังกฤษเกี่ยวกับสงคราม และความสงสัยของเขาที่ว่า มีการทำข้อตกลงใด ๆ กับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซีย
ประมาณ 10 นาทีสุดท้ายของการประชุมที่เปิดให้สื่อมวลชนเข้าร่วมซึ่งมีระยะเวลารวม 50 นาทีนั้น ได้กลายเป็นการโต้เถียงที่ดุเดือด หลังจากที่แวนซ์บอกเซเลนสกีว่า การเจรจาทางการทูตเป็นสิ่งจำเป็นในการยุติสงคราม และแนะนำให้เซเลนสกีขอบคุณความพยายามของทรัมป์ในการป้องกันไม่ให้ยูเครนถูกทำลายโดยรัสเซีย
"ผมคิดว่าเป็นการขาดความเคารพที่คุณมาที่ห้องทำงานรูปไข่เพื่อพยายามอภิปรายเรื่องนี้ต่อหน้าสื่อมวลชนของอเมริกา" แวนซ์กล่าว หลังจากที่เซเลนสกีโต้แย้งว่าไม่สามารถเชื่อถือในตัวปูตินได้ โดยอ้างถึงการที่ปูตินฝ่าฝืนคำมั่นสัญญาหลายครั้งก่อนหน้านี้