โฮเวิร์ด ลุตนิก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐฯ กล่าวเมื่อวันอาทิตย์ (2 มี.ค.) ว่า เขาต้องการแยกค่าใช้จ่ายของรัฐบาลออกจากรายงานผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) แต่ไม่ได้ระบุว่าการเปลี่ยนแปลงนี้จะเกิดขึ้นเมื่อใด พร้อมปัดความกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงที่เศรษฐกิจอาจเข้าสู่ภาวะถดถอย
"คุณทราบกันไหมว่าที่ผ่านมารัฐบาลมักเข้าไปยุ่มย่ามกับตัวเลข GDP" ลุตนิกกล่าวระหว่างให้สัมภาษณ์ในรายการ Sunday Morning Future ของสถานีโทรทัศน์ฟ็อกซ์นิวส์ พร้อมระบุว่า "พวกเขานับรวมค่าใช้จ่ายของรัฐบาลเป็นส่วนหนึ่งของ GDP ดังนั้นผมจะแยกสองส่วนนี้ออกจากกันและทำให้เกิดความโปร่งใส"
เมื่อถูกถามว่ากังวลหรือไม่ว่านโยบายของรัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ทั้งการขึ้นภาษีนำเข้า การลดขนาดรัฐบาลผ่านการตัดงบประมาณ และการเลิกจ้างพนักงานจำนวนมาก จะทำให้เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอย ลุตนิกตอบทันทีว่า "ไม่ ไม่ ไม่"
ความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจและผู้บริโภคได้ลดลงในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ส่งผลให้แรงส่งเชิงบวกที่เกิดขึ้นหลังชัยชนะของทรัมป์ในการเลือกตั้งเมื่อเดือนพ.ย.เริ่มจางหายไป ข้อมูลการใช้จ่ายของผู้บริโภคและตัวเลขขาดดุลการค้าสินค้าชี้ให้เห็นถึงความเสี่ยงที่เศรษฐกิจอาจหดตัวในไตรมาสแรก ซึ่งกระตุ้นให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับภาวะถดถอย
ปัจจุบัน ค่าใช้จ่ายของรัฐบาลกลางคิดเป็นประมาณ 6.5% ของ GDP และมีส่วนช่วย 0.25% ต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจในอัตรา 2.3% ต่อปีในไตรมาสที่สี่ โดยส่วนใหญ่มาจากงบประมาณด้านกลาโหม