ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ แถลงต่อที่ประชุมร่วมวุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ในช่วงเช้าวันนี้ตามเวลาไทย (5 มี.ค.) ซึ่งเป็นการกล่าวปราศรัยต่อสมาชิกรัฐสภาสหรัฐฯ และชาวอเมริกันทั่วประเทศเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่สาบานตนรับตำแหน่งเมื่อวันที่ 20 ม.ค.ที่ผ่านมา
การกล่าวปราศัยครั้งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางความปั่นป่วนในตลาดหุ้น อันเนื่องมาจากการที่ปธน.ทรัมป์ประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากแคนาดา เม็กซิโก และจีน รวมทั้งข้อถกเถียงเกี่ยวกับการดำเนินการของกระทรวงประสิทธิภาพรัฐบาล (DOGE) ของอีลอน มัสก์ ที่มุ่งลดการใช้จ่ายของรัฐบาลกลางและลดกำลังคน
ซีเอ็นบีซีรายงานว่า ในขณะที่ปธน.ทรัมป์กล่าวคำปราศัยนั้น สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคเดโมแครตกว่า 20 คนถือป้ายขาวดำที่เขียนว่า "Save Medicaid" และ "Musk Steals"
- เปิดฉากยุคอเมริกายิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์
ปธน.ทรัมป์เริ่มต้นด้วยการกล่าวว่า "เมื่อ 6 สัปดาห์ก่อน ผมยืนอยู่ใต้โดมของอาคารสภาคองเกรสแห่งนี้ และประกาศการมาถึงของยุคทองแห่งอเมริกา ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา มีแต่การดำเนินการอย่างรวดเร็วและไม่หยุดยั้งเพื่อนำไปสู่ยุคที่ยิ่งใหญ่และประสบความสำเร็จมากที่สุดในประวัติศาสตร์ประเทศของเรา เราทำสำเร็จมากกว่าที่รัฐบาลส่วนใหญ่ทำในช่วงเวลา 4 ปีหรือ 8 ปี และเราเพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น ความฝันของชาวอเมริกัน (American Dream) กำลังเพิ่มขึ้นมากขึ้นและดีกว่าที่เคยเป็นมา"
- ผมไม่สามารถทำให้พรรคเดโมแครตมีความสุขได้
ปธน.ทรัมป์กล่าวว่า "นี่เป็นการกล่าวปราศัยต่อสภาคองเกรสครั้งที่ 5 ของผม และเป็นอีกครั้งที่ผมมองดูสมาชิกเดโมแครตตรงหน้าผม และตระหนักว่าไม่มีอะไรเลยที่ผมสามารถพูดเพื่อทำให้พวกเขามีความสุข หรือทำให้พวกเขาลุกขึ้นยืน ยิ้ม หรือปรบมือ ไม่มีอะไรที่ผมทำได้"
"ผมอาจค้นพบวิธีรักษาโรคร้ายแรงที่สุด โรคที่อาจจะทำลายประเทศต่าง ๆ ให้หมดสิ้นไป" ทรัมป์กล่าว "คนเหล่านี้ที่นั่งอยู่ตรงนี้จะไม่ปรบมือ จะไม่ลุกขึ้นยืน และแน่นอนว่าจะไม่โห่ร้องเพื่อเฉลิมฉลองความสำเร็จอันยิ่งใหญ่เหล่านี้ พวกเขาจะไม่ทำ ไม่ว่าอะไรก็ตาม... มันน่าเศร้ามาก และมันไม่ควรเป็นแบบนี้... สมาชิกเดโมแครตที่นั่งอยู่ตรงหน้าผม เพียงแค่คืนนี้คืนเดียว ทำไมไม่มาร่วมกับพวกเราในการเฉลิมฉลองชัยชนะอันน่าทึ่งมากมายสำหรับอเมริกา"
- อวดความสำเร็จ: นักกีฬาข้ามเพศ, DEI และอื่น ๆ
ทรัมป์กล่าวว่าเขาได้นำ "เสรีภาพในการพูด" กลับมาสู่สหรัฐฯ อีกครั้ง และยังกล่าวถึงคำสั่งบริหารหลายฉบับของเขา โดยชี้ให้เห็นว่า เขาได้ทำให้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาทางการของสหรัฐฯ เปลี่ยนชื่ออ่าวเม็กซิโกเป็นอ่าวอเมริกา และเปลี่ยนชื่อภูเขาที่สูงที่สุดในรัฐอะแลสกาของสหรัฐฯ
จากนั้นทรัมป์กล่าวว่า เขาได้ "ยุติการกดขี่ของโครงการด้านความหลากหลาย ความเท่าเทียม และการไม่แบ่งแยก หรือ DEI ในรัฐบาล" และเสริมว่า "ประเทศของเราจะไม่ฝักใฝ่การตื่นรู้ (Woke) อีกต่อไป"
ปธน.ทรัมป์ยังได้กล่าวถึงคำสั่งของเขาที่ "ห้ามผู้ชายเล่นกีฬาผู้หญิง" และคำสั่งของเขาที่ให้การรับรองอย่างเป็นทางการว่ามีเพียงสองเพศเท่านั้น จากนั้นเขาตะโกนทักทายแขกของเขาในห้องประชุมสภาคองเกรส คือ เพย์ตัน แมคนับบ์ อดีตนักกีฬามัธยมปลาย ซึ่งกล่าวว่าเธอได้รับผลกระทบจากคนข้ามเพศที่เล่นกีฬาผู้หญิง
ขณะเดียวกันปธน.ทรัมป์กล่าวว่า "เราทนทุกข์กับเงินเฟ้อที่เลวร้ายที่สุดใน 48 ปี แต่บางทีอาจจะเป็นเงินเฟ้อที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ประเทศของเรา"