มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ เปิดเผยในวันจันทร์ (10 มี.ค.) ว่า รัฐบาลสหรัฐฯ ได้ยกเลิกโครงการมากกว่า 80% ของทั้งหมดที่ได้รับการสนับสนุนจากองค์การเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศของสหรัฐอเมริกา (USAID)
รูบิโอโพสต์ผ่านแพลตฟอร์มเอ็กซ์ (X) ว่า หลังจากทำการตรวจสอบนาน 6 สัปดาห์ รัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ตัดสินใจยกเลิกโครงการของ USAID รวม 83% จากทั้งหมดอย่างเป็นทางการ
รูบิโอระบุว่า สัญญารวม 5,200 ฉบับที่ถูกยกเลิกไปนั้น ผลาญเงินหลายหมื่นล้านดอลลาร์โดยเปล่าประโยชน์ และในบางกรณียังเป็นอันตรายต่อผลประโยชน์หลักของสหรัฐฯ อีกด้วย
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า เมื่อเดือนก.พ.ที่ผ่านมา ทรัมป์กล่าวว่ามี "การทุจริตอย่างมโหฬาร" ในการใช้เงินของ USAID ในระดับที่ไม่เคยมีมาก่อน และประกาศว่าจะยุบ USAID
เมื่อวันที่ 4 ก.พ. USAID แถลงผ่านเว็บไซต์ว่า บุคลากรที่ได้รับการว่าจ้างโดยตรงทั่วโลกจะถูก "พักงาน" ทุกคน ยกเว้นบุคลากรที่มีบทบาทสำคัญต่อภารกิจเพียงส่วนน้อยเท่านั้น
สื่อสหรัฐฯ รายงานว่า เป้าหมายของรัฐบาลทรัมป์คือการลดจำนวนพนักงานของ USAID ทั่วโลกจากกว่า 10,000 คน ให้เหลือไม่ถึง 300 คน หรือลดลงถึง 97%
ทั้งนี้ USAID ซึ่งเป็นกลไกหลักของสหรัฐฯ ในการมอบความช่วยเหลือแก่ต่างชาติ ตกเป็นเป้าสำคัญในการปฏิรูปรัฐบาลโดยการนำของกระทรวงประสิทธิภาพรัฐบาล (DOGE)
อนึ่ง บางประเทศกล่าวหาว่า USAID เป็นเครื่องมือของสหรัฐฯ ในการก่อความไม่สงบ