กระทรวงศึกษาธิการสหรัฐฯ ประกาศเมื่อวานนี้ (11 มี.ค.) ว่า มีแผนปลดพนักงานเกือบครึ่งหนึ่งในกระทรวงฯ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ "ภารกิจสุดท้าย" ก่อนการยุบกระทรวงฯ ตามนโยบายของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ขณะที่ทุกหน่วยงานรัฐบาลกำลังเร่งส่งแผนการปลดพนักงานรอบที่สองภายในวันพฤหัสบดี (13 มี.ค.)
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า กระทรวงศึกษาธิการมีภารกิจสำคัญในการดูแลเงินกู้ยืมเพื่อการศึกษาระดับวิทยาลัยมูลค่า 1.6 ล้านล้านดอลลาร์ รวมถึงการบังคับใช้กฎหมายสิทธิพลเมืองในโรงเรียน และการจัดสรรเงินทุนสนับสนุนให้แก่เขตการศึกษาที่ขาดแคลน
ลินดา แม็กมาฮอน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ยืนยันในรายการของทางช่องฟ็อกซ์นิวส์ว่า การปลดพนักงานครั้งนี้จะนำไปสู่การยุบกระทรวงฯ ตามคำสั่งของปธน.ทรัมป์
แหล่งข่าวจากกระทรวงฯ เปิดเผยว่า รัฐบาลวางแผนจะโอนย้ายโครงการขอรับความช่วยเหลือทางการเงินสำหรับนักศึกษาจากรัฐบาลกลาง หรือ Free Application for Federal Student Aid (FAFSA) ไปยังกระทรวงการคลัง โดย FAFSA เป็นหนึ่งในเครื่องมือสำคัญของกระทรวงศึกษาธิการที่ช่วยเตรียมความพร้อมด้านการเงินสำหรับการศึกษาระดับวิทยาลัยและบัณฑิตศึกษา
อนึ่ง การปรับลดขนาดรัฐบาลครั้งใหญ่นี้ดำเนินการโดยมหาเศรษฐี อีลอน มัสก์ ผ่านกระทรวงประสิทธิภาพรัฐบาล (DOGE) โดยมีการลดตำแหน่งงานไปแล้วกว่า 100,000 ตำแหน่งจากข้าราชการพลเรือนทั้งหมด 2.3 ล้านคน พร้อมทั้งระงับความช่วยเหลือต่างประเทศส่วนใหญ่ ตลอดจนยกเลิกโครงการและสัญญาต่าง ๆ นับพันรายการ แม้จะเผชิญกับการฟ้องร้องหลายสิบคดีที่ท้าทายความชอบด้วยกฎหมายของการดำเนินการดังกล่าวก็ตาม