รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของกลุ่ม G7 ได้รวมตัวกันเมื่อวานนี้ (12 มี.ค.) ที่ประเทศแคนาดา เพื่อหารือประเด็นสำคัญที่เกิดขึ้นในระดับโลก ไม่ว่าจะเป็นความพยายามในการยุติสงครามรัสเซีย-ยูเครน ไปจนถึงวิธีรับมืออิทธิพลของจีนในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า การหารือดังกล่าวจะมีขึ้นที่เมืองลามาลแบในรัฐควิเบกของแคนาดา โดยจะเริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการในวันนี้ (13 มี.ค.) นับเป็นเวลาเพียงสองวันหลังจากที่สหรัฐฯ ได้ฟื้นฟูความสัมพันธ์ที่ย่ำแย่กับยูเครน และตกลงที่จะกลับมาให้ความช่วยเหลือทางทหารและแบ่งปันข่าวกรองกับยูเครนอีกครั้ง
เจ้าหน้าที่ G7 เปิดเผยว่า สำหรับกำหนดการในวันนี้ บรรดารัฐมนตรีต่างประเทศจะจัดการประชุมในหัวข้อต่าง ๆ เช่น อนาคตของยูเครนและยุโรป, จีนและอินโด-แปซิฟิก, ความมั่นคงทางทะเล และบทบาทของกลุ่ม G7 ในตะวันออกกลาง
ส่วนกำหนดการสำหรับวันพรุ่งนี้ (14 มี.ค.) ก่อนที่จะสรุปการประชุม บรรดารัฐมนตรีต่างประเทศจะแลกเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับความท้าทายที่เกิดขึ้นจากประเทศต่าง ๆ เช่น จีน อิหร่าน และเกาหลีเหนือ รวมถึงความร่วมมือเพื่อสันติภาพในแอฟริกา
ทั้งนี้ รัฐมนตรีต่างประเทศมุ่งหวังที่จะออกแถลงการณ์ร่วม ซึ่งจะเน้นย้ำถึงการสนับสนุนความพยายามอย่างต่อเนื่องที่นำโดยสหรัฐฯ ในการยุติสงครามในยูเครน และความมุ่งมั่นเพื่ออินโด-แปซิฟิกที่เสรี เปิดกว้าง และปลอดภัย ขณะเดียวกันก็แสดงความไม่เห็นด้วยกับความพยายามใด ๆ ที่จะเปลี่ยนแปลงสถานภาพเดิมในภูมิภาคหรือที่อื่น ๆ โดยฝ่ายเดียว
มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวว่า "คำกล่าวที่สมบูรณ์แบบที่สุดก็คือ การยอมรับว่าสหรัฐฯ ได้ทำประโยชน์ให้กับโลกในการผลักดันกระบวนการนี้ให้ก้าวหน้า และตอนนี้เราทุกคนต่างรอคอย ? ท่าทีจากรัสเซีย พร้อมทั้งขอวิงวอนอย่างจริงจังให้พวกเขาพิจารณายุติความรุนแรงทั้งหมด เพื่อไม่ให้มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม เพื่อให้การยิงกันหยุดลง และเพื่อเปิดทางให้กระบวนการสร้างสันติภาพถาวรได้เริ่มต้นขึ้น"