กองกำลังความมั่นคงปากีสถานระดมกำลังบุกช่วยตัวประกันบนขบวนรถไฟที่ถูกกลุ่มแบ่งแยกดินแดนยึด สามารถวิสามัญฆาตกรรมผู้ก่อการร้ายได้ทั้งหมด 33 รายในวันพุธ (12 มี.ค.) หลังจากเหตุการณ์จับตัวประกันยืดเยื้อนานกว่า 1 วัน
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เหตุการณ์นี้เริ่มขึ้นเมื่อวันอังคาร (11 มี.ค.) โดยกลุ่มแบ่งแยกดินแดนได้วางระเบิดรางรถไฟและกราดยิงใส่ขบวนรถไฟจาฟฟาร์ เอ็กซ์เพรส (Jaffar Express) ซึ่งบรรทุกผู้โดยสาร 440 คน ขณะแล่นจากเมืองเควตตา เมืองหลวงของแคว้นบาลูจิสถาน มุ่งหน้าสู่เมืองเปศวาร์ในแคว้นแคบาร์ปัคตูนควา
กองทัพปากีสถานยืนยันว่า ตัวประกัน 21 ราย และกองกำลังความมั่นคง 4 นายเสียชีวิตในเหตุการณ์นี้
"วันนี้ เราสามารถช่วยเหลือผู้โดยสารได้เป็นจำนวนมาก รวมถึงผู้หญิงและเด็ก ปฏิบัติการขั้นสุดท้ายเป็นไปด้วยความระมัดระวังอย่างที่สุด" อาเหม็ด ชารีฟ เชาดรี โฆษกกองทัพ กล่าว พร้อมทั้งยืนยันว่าไม่มีพลเรือนเสียชีวิตในระหว่างปฏิบัติการขั้นสุดท้าย
ก่อนมีประกาศจากกองทัพปากีสถาน ทางกองทัพปลดปล่อยบาลูจิสถาน (BLA) ซึ่งเป็นกลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์ที่อ้างตัวว่าเป็นผู้ก่อเหตุ ระบุว่าได้สังหารผู้โดยสารไปแล้ว 50 รายเมื่อเย็นวันพุธ และระบุเมื่อวันอังคารว่ามีตัวประกันในมือ 214 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเจ้าหน้าที่รักษาความมั่นคง
BLA ขู่ว่าจะสังหารตัวประกันหากไม่มีการปล่อยตัวนักโทษการเมือง นักเคลื่อนไหว และผู้สูญหายชาวบาลูจิสถานที่ถูกกองทัพรัฐบาลควบคุมตัว ภายใน 48 ชั่วโมง
ทั้งนี้ BLA ถือเป็นกลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์ที่ใหญ่ที่สุดในบรรดากลุ่มต่อต้านรัฐบาลปากีสถานในแคว้นบาลูจิสถาน ดินแดนที่อุดมไปด้วยแร่ธาตุและมีชายแดนติดกับอัฟกานิสถานและอิหร่าน
ก่อนหน้านี้ในวันพุธ ทาลัล เชาดรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยกับสถานีโทรทัศน์จีโอ (Geo) ว่า ผู้ก่อการร้ายสวมชุดระเบิดฆ่าตัวตายปะปนอยู่กับผู้โดยสารที่ถูกจับเป็นตัวประกัน ส่งผลให้การช่วยเหลือทำได้ยากลำบาก และระบุว่าผู้ก่อการร้ายที่ร่วมยึดรถไฟมีจำนวนราว 70-80 คน
รมช.เชาดรีกล่าวว่า กองทัพได้ระดมกำลังทหารหลายร้อยนาย พร้อมทั้งส่งกองกำลังทางอากาศและหน่วยรบพิเศษเข้าปฏิบัติการ โดยในช่วงสุดท้าย หน่วยรบพิเศษได้เข้าจัดการกับกลุ่มมือระเบิดฆ่าตัวตายก่อน แล้วจึงส่งกำลังเข้าตรวจค้นทีละตู้โดยสารและสังหารผู้ก่อการร้ายที่เหลือ