สถานทูตจีนประจำนิวซีแลนด์กล่าวหาแอนดรูว์ แฮมป์ตัน ผู้อำนวยการใหญ่หน่วยข่าวกรองความมั่นคงแห่งนิวซีแลนด์ว่า "กระจายข้อมูลอันเป็นเท็จ" หลังจากที่เขาเตือนถึงความเสี่ยงจากอิทธิพลของจีนที่กำลังขยายตัวขึ้นเรื่อย ๆ ในแถบแปซิฟิก
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า แฮมป์ตันกล่าว ณ กรุงเวลลิงตันเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า การที่ประเทศต่าง ๆ ในแปซิฟิกให้ความสำคัญกับปัญหาทางเศรษฐกิจและอาชญากรรมข้ามชาติ เปิดโอกาสให้จีนลงนามข้อตกลงเชิงยุทธศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับ "ความร่วมมือทางเศรษฐกิจและความมั่นคง" กับประเทศเหล่านั้นได้
สถานทูตจีนประจำกรุงเวลลิงตันแย้งว่า ถ้อยแถลงดังกล่าวของแฮมป์ตัน "ไม่มีมูลความจริงแม้แต่น้อย และเป็นเพียงการกุเรื่องขึ้นมาเท่านั้น" พร้อมเรียกร้องให้แฮมป์ตันหยุดมองจีนด้วย "แนวคิดสงครามเย็นและจ้องแต่จะหาผู้แพ้ผู้ชนะ" ได้แล้ว
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา จีนได้ทำข้อตกลงกับหลาย ๆ ชาติในภูมิภาคแปซิฟิก ซึ่งสร้างความวิตกกังวลให้กับนิวซีแลนด์ ที่เป็นสมาชิกของกลุ่มพันธมิตรข่าวกรองไฟฟ์ อาย (Five Eye) เช่นเดียวกับอังกฤษ สหรัฐฯ แคนาดา และออสเตรเลีย
แฮมป์ตันกล่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า จีนต้องการ "สร้างสถาปัตยกรรมระดับภูมิภาคที่แข่งขันกัน และขยายอิทธิพลกับประเทศหมู่เกาะในแปซิฟิก" ซึ่งก่อให้เกิดการแทรกแซงและความเสี่ยงด้านการจารกรรมจากต่างชาติ
ทั้งนี้ หมู่เกาะคุก ซึ่งเป็นประเทศปกครองตนเองในมหาสมุทรแปซิฟิกที่มีความสัมพันธ์อย่างเสรีกับนิวซีแลนด์ เป็นศูนย์กลางของความตึงเครียดระหว่างจีนและนิวซีแลนด์ในช่วงนี้
มาร์ค บราวน์ นายกรัฐมนตรีของหมู่เกาะคุก ได้เดินทางเยือนจีนเมื่อเดือนก.พ. เพื่อลงนามในข้อตกลงความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ที่ครอบคลุมกับนายกรัฐมนตรีหลี่ เฉียง ของจีน ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้กับทางการนิวซีแลนด์ เนื่องจากขาดการปรึกษาหารือและความโปร่งใสเกี่ยวกับการเยือนของบราวน์ในครั้งนี้