สหราชอาณาจักรเตรียมเริ่มเจรจาการค้ากับฟิลิปปินส์ หลังจากที่ฟิลิปปินส์ตกลงยกเลิกคำสั่งห้ามนำเข้าเนื้อวัวและผลิตภัณฑ์จากสัตว์ปีกของอังกฤษ
ตามแถลงการณ์ของกระทรวงธุรกิจและการค้าของอังกฤษ ดักลาส อเล็กซานเดอร์ รัฐมนตรีการค้าอังกฤษมีกำหนดพบกับอัลลัน เกปตี รัฐมนตรีช่วยกระทรวงพาณิชย์ของฟิลิปปินส์ที่กรุงลอนดอนในวันนี้ (17 มี.ค.) เพื่อเริ่มต้นการเจรจาเกี่ยวกับการเสริมสร้างความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างสองประเทศ ซึ่งมีมูลค่าราว 2.8 พันล้านปอนด์ (3.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ต่อปี โดยมุ่งเน้นที่ความร่วมมือด้านโครงสร้างพื้นฐาน พลังงานหมุนเวียน การเกษตร และเทคโนโลยี
"การเจรจาในวันนี้ถือเป็นสัญญาณของบทใหม่ที่สำคัญในความสัมพันธ์ทางการค้าของเรากับฟิลิปปินส์ ซึ่งเป็นหนึ่งในเศรษฐกิจที่เติบโตเร็วที่สุดในเอเชีย" อเล็กซานเดอร์ ระบุในแถลงการณ์ "การแสดงให้เห็นว่าสหราชอาณาจักรพร้อมเปิดรับธุรกิจในเอเชียเป็นสิ่งสำคัญ" สำหรับความพยายามของรัฐบาลในการกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจ
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า แม้สหรัฐฯ จะยังคงเป็นประเทศคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของอังกฤษ การเก็บภาษีเพื่อคุ้มครองสินค้าในประเทศของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผลักดันให้รัฐบาลของเคียร์ สตาร์เมอร์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ต้องมองหาการขยายความสัมพันธ์ไปยังประเทศอื่น ๆ เช่น จีน เกาหลีใต้ และมาเลเซีย
ทั้งนี้ การฟื้นฟูความสัมพันธ์นี้เกิดขึ้นหลังจากฟิลิปปินส์เห็นพ้องยกเลิกคำสั่งห้ามนำเข้าเนื้อวัวจากอังกฤษ ซึ่งมีผลบังคับใช้หลังจากพบโรควัวบ้า (BSE) ในฟาร์มแห่งหนึ่งของอังกฤษเมื่อปีที่ผ่านมา พร้อมกับการตัดสินใจยกเลิกคำสั่งห้ามนำเข้าผลิตภัณฑ์จากสัตว์ปีกเนื่องจากกรณีไข้หวัดนก การเปลี่ยนแปลงนี้คาดว่าจะสร้างมูลค่า 80 ล้านปอนด์ให้กับอุตสาหกรรมเนื้อสัตว์ของอังกฤษในช่วง 5 ปีข้างหน้า