รัฐบาลสหราชอาณาจักร (UK) เตรียมยกเลิกบัตรเครดิตหลายพันใบที่ออกให้กับข้าราชการพลเรือน โดยเป็นนโยบายของนายกรัฐมนตรีเคียร์ สตาร์เมอร์ ในการลดการใช้จ่ายฟุ่มเฟือยและปฏิรูปภาครัฐ
สำนักงานคณะรัฐมนตรีเปิดเผยในวันจันทร์ (17 มี.ค.) ว่า บัตรเครดิตจัดซื้อของรัฐบาลจำนวน 20,000 ใบจะถูกอายัดเกือบทั้งหมด และผู้ถือบัตรต้องยื่นคำร้องขอใหม่ โดยคาดว่าการดำเนินการดังกล่าวจะทำให้จำนวนบัตรลดลงอย่างน้อย 50% ความเคลื่อนไหวนี้มีขึ้นหลังจากที่การใช้จ่ายผ่านบัตรเพิ่มขึ้นมากกว่า 4 เท่าในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา พุ่งแตะ 675 ล้านปอนด์ (876 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ต่อปี
การประกาศครั้งนี้เป็นความพยายามของพรรคแรงงานในการรัดเข็มขัดกระทรวงการคลัง ขณะที่การเงินของประเทศอยู่ในภาวะตึงตัว โดยคาดว่าราเชล รีฟส์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง จะประกาศลดการใช้จ่ายหลายพันล้านปอนด์ในการแถลงประจำฤดูใบไม้ผลิ วันที่ 26 มี.ค.นี้
แพต แม็กแฟดเดน รัฐมนตรีประจำสำนักงานคณะรัฐมนตรี แถลงว่า "การที่เงินหลายร้อยล้านปอนด์ถูกใช้ผ่านบัตรเครดิตของรัฐบาลทุกปีโดยไม่ได้รับการตรวจสอบอย่างเข้มงวดถือเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง ... เฉพาะเจ้าหน้าที่ที่มีความจำเป็นจริง ๆ เท่านั้นที่ควรมีบัตร"
สำนักงานคณะรัฐมนตรีเปิดเผยว่า จะมีการใช้มาตรการใหม่เพื่อควบคุมการใช้จ่ายผ่านบัตรด้วยเช่นกัน โดยจะลดเพดานค่าใช้จ่ายสูงสุดสำหรับการเลี้ยงรับรองจาก 2,500 ปอนด์ เหลือ 500 ปอนด์ และการใช้จ่ายเกิน 500 ปอนด์ต้องได้รับการอนุมัติจากผู้บริหารระดับสูง
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ความเคลื่อนไหวนี้คล้ายคลึงกับความเคลื่อนไหวของกระทรวงประสิทธิภาพรัฐบาล (DOGE) ของสหรัฐอเมริกา ภายใต้การนำของอีลอน มัสก์ โดยเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว DOGE โพสต์ผ่านแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย X ว่า ได้ดำเนินโครงการนำร่องร่วมกับหน่วยงานรัฐบาล 16 แห่ง เพื่อตรวจสอบบัตรเครดิตที่ไม่ได้ใช้งานและไม่จำเป็น ส่งผลให้มีการระงับบัตรเครดิตมากกว่า 200,000 ใบภายใน 3 สัปดาห์