รายงานข่าวกรองของสหรัฐฯ ระบุเมื่อวันอังคาร (25 มี.ค.) ว่า จีนเป็นภัยคุกคามทางทหารที่ครอบคลุมที่สุดต่อความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ และตั้งเป้าที่จะแซงหน้าสหรัฐฯ ในฐานะผู้นำด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) ภายในปี 2573
รายงานฉบับนี้ซึ่งเผยแพร่โดยหน่วยข่าวกรองของสหรัฐฯ ยังระบุว่าจีน อิหร่าน เกาหลีเหนือ และรัสเซีย เป็นรัฐสำคัญที่ท้าทายผลประโยชน์ของสหรัฐฯ ในหลายด้าน ตั้งแต่ความมั่นคงแห่งชาติ ไปจนถึงไซเบอร์ การค้า และเทคโนโลยี
"จีนโดดเด่นในฐานะประเทศที่มีศักยภาพมากที่สุดในการคุกคามผลประโยชน์ของสหรัฐฯ ในระดับโลก แม้จีนจะระมัดระวังมากกว่ารัสเซีย อิหร่าน และเกาหลีเหนือ ในการรักษาภาพลักษณ์ทางเศรษฐกิจและการทูตในเวทีโลก ด้วยการหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่ก้าวร้าวและสร้างความปั่นป่วนมากเกินไป" รายงานการประเมินภัยคุกคามประจำปีระบุ
รายงานเตือนว่า ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีของจีน ซึ่งขับเคลื่อนโดยนโยบายของรัฐบาลโดยรวม และการครอบงำในอุตสาหกรรมเหมืองแร่และการแปรรูปแร่ธาตุสำคัญที่จำเป็นต่ออุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ เช่น แกลเลียมและเจอร์เมเนียม จะสร้างความท้าทายหลายประการให้กับสหรัฐฯ
"จีนได้ขโมยข้อมูลทรัพย์สินทางปัญญาหลายร้อยกิกะไบต์จากบริษัทในเอเชีย ยุโรป และอเมริกาเหนือ เพื่อพยายามก้าวข้ามข้อจำกัดทางเทคโนโลยี" รายงานระบุ
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า รายงานฉบับนี้ยังชี้ถึงการพัฒนาแสนยานุภาพทางทหารของจีนอย่างรวดเร็ว โดยระบุว่ากองทัพปลดปล่อยประชาชน "น่าจะมีความคืบหน้าอย่างต่อเนื่องแต่ไม่สม่ำเสมอในแง่ขีดความสามารถที่จะเข้ายึดไต้หวัน และสกัดการแทรกแซงทางทหารของสหรัฐฯ"
นอกจากนี้ รายงานยังกล่าวถึงความร่วมมือที่เพิ่มขึ้นระหว่างเกาหลีเหนือกับรัสเซีย โดยระบุว่า เกาหลีเหนือพึ่งพาจีนน้อยลง ขณะที่ความร่วมมือกับรัสเซียที่เพิ่มขึ้นช่วยสนับสนุนรัฐบาลของคิม จองอึน ทั้งในด้านการเงิน การทหาร และการทูต
"เกาหลีเหนือน่าจะเตรียมพร้อมสำหรับการทดสอบนิวเคลียร์" ขณะที่ยังคงทดสอบขีปนาวุธข้ามทวีป (ICBM) อย่างต่อเนื่อง เพื่อคุกคามสหรัฐฯ และพันธมิตรอย่างญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ รวมถึงประเทศอื่น ๆ