คริสติน ลาการ์ด ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) เปิดเผยในวันจันทร์ (31 มี.ค.) ว่า โอกาสที่สหรัฐฯ จะเรียกเก็บภาษีศุลกากรในวันที่ 2 เม.ย. หมายความว่า ยุโรปจะต้องควบคุมอนาคตของตัวเองให้ดีกว่านี้
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ประกาศว่า วันพุธที่ 2 เม.ย.จะเป็นวันแห่งการปลดปล่อยสำหรับอเมริกา (Liberation Day) เนื่องจากเป็นวันที่สหรัฐฯ จะเรียกเก็บภาษีศุลกากรตอบโต้ (reciprocal tariff) ต่อสินค้าที่นำเข้าจากทุกประเทศที่เรียกเก็บภาษีต่อสินค้าสหรัฐฯ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ทรัมป์ได้เก็บภาษีนำเข้าอะลูมิเนียม เหล็กกล้า รถยนต์ รวมถึงปรับขึ้นภาษีสินค้าจากจีนทั้งหมดไปแล้ว
ลาการ์ดให้สัมภาษณ์กับสถานีวิทยุฟร็องซ์ แอ็งแตร์ (France Inter) ว่า "ดิฉันพยายามจะมองว่านี่เป็นช่วงเวลาสำคัญของยุโรป ... และดิฉันมองว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่เราจะต้องพึ่งพาตนเองมากขึ้น ทางทรัมป์เรียกวันนี้ว่าวันแห่งอิสรภาพในสหรัฐฯ แต่สำหรับดิฉัน นี่คือช่วงเวลาที่พวกเราชาวยุโรปต้องร่วมมือกันกำหนดอนาคตของตัวเอง ซึ่งจะเป็นก้าวสำคัญสู่การพึ่งพาตนเอง ส่วนทรัมป์นั้น เขามักจะมองทุกอย่างในแง่ธุรกิจ และนำหลักการแบบนั้นมาใช้บริหารความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ"
ทั้งนี้ ลาการ์ด ยังคงย้ำจุดยืนในคาดการณ์ของเธอว่า การที่สหรัฐฯ เรียกเก็บภาษีนำเข้าจะส่งผลให้เศรษฐกิจยุโรปเติบโตลดลง 0.3% ในปีแรก และอาจลดลงถึง 0.5% หากมีมาตรการตอบโต้