ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ฝ่ายบริหารของเขาติดต่อสื่อสารอยู่กับเกาหลีเหนือ พร้อมระบุด้วยว่า ทั้งสองฝ่ายอาจจะทำบางอย่างร่วมกัน ณ เวลาใดเวลาหนึ่ง
ทรัมป์กล่าวถึงเรื่องดังกล่าวในวันจันทร์ (31 มี.ค.) หลังนักข่าวที่ทำเนียบขาวถามว่า เขามีแผนจะติดต่อกับเกาหลีเหนือ หรือผู้นำสูงสุด คิม จองอึน ในอนาคตอันใกล้นี้หรือไม่ โดยทรัมป์ตอบว่า "พวกคุณคงไม่อยากได้ยินแบบนั้น" แต่การติดต่อสื่อสารกับคิมถือเป็น "เรื่องสำคัญมาก" พร้อมเสริมด้วยว่า "เรามีความสัมพันธ์ที่ดี ... เขาเป็นคนฉลาด ... ผมรู้จักเขาเป็นอย่างดี"
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ทรัมป์นับเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนแรกที่ได้พบปะหารือกับผู้นำเกาหลีเหนือ โดยทั้งคู่พบกันที่สิงคโปร์ในปี 2561 ก่อนที่จะจัดการเจรจากันอีกสองรอบในปีถัดมา แต่ท้ายที่สุดแล้วทั้งสองฝ่ายต่างกลับบ้านมือเปล่า
ต่อมา รัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้การบริหารของอดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดน ไม่ได้แสดงให้เห็นถึงความคืบหน้าที่เป็นรูปธรรมในการยับยั้งความก้าวหน้าด้านนิวเคลียร์และขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ แม้ว่าสหรัฐฯ จะเรียกร้องให้มีการเจรจาระหว่างสองประเทศโดยไม่มีเงื่อนไขก็ตาม และหลังจากที่เกาหลีเหนือกระชับความสัมพันธ์ทางทหารกับรัสเซีย นับตั้งแต่ที่รัสเซียเริ่มเปิดฉากรุกรานยูเครนเต็มรูปแบบในปี 2565 รัฐบาลของไบเดนก็ยิ่งแทบจะไม่มีการสื่อสารกับเกาหลีเหนือเลย
ทั้งนี้ มีการคาดการณ์กันว่า ในระหว่างดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยที่สอง ทรัมป์จะพยายามฟื้นการเจรจากับคิมโดยไม่พยายามรื้อถอนคลังอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ อย่างไรก็ดี ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่า คำอธิบายล่าสุดของทรัมป์เกี่ยวกับเกาหลีเหนือถือเป็นการละทิ้งจุดยืนที่ยาวนานของสหรัฐฯ ที่จะไม่ยอมรับเกาหลีเหนือในฐานะ "รัฐครอบครองนิวเคลียร์" อย่างเป็นทางการ หรือไม่