ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ของยูเครน เปิดเผยเมื่อวานนี้ (8 เม.ย.) ว่า กองกำลังยูเครนได้จับกุมพลเมืองจีน 2 คน ที่เข้าร่วมสู้รบในฝั่งกองทัพรัสเซีย ระหว่างสงครามที่กำลังดำเนินอยู่ในขณะนี้
ปธน.เซเลนสกีกล่าวผ่านโซเชียลมีเดียว่า "เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในดินแดนยูเครน" บริเวณแคว้นดอแนตสก์ทางตะวันออก พร้อมเสริมว่า "เรามีข้อมูลบ่งชี้ว่า น่าจะมีพลเมืองจีนในหน่วยรบของฝ่ายผู้รุกราน (รัสเซีย) มากกว่าแค่สองคนนี้"
ปธน.เซเลนสกีโพสต์ผ่านแพลตฟอร์มเอ็กซ์ (ทวิตเตอร์) ว่า ทั้งสองคนมีเอกสารและบัตรธนาคารสำหรับยืนยันตัวตน และเขาได้สั่งการให้รัฐมนตรีต่างประเทศยูเครนติดต่อทางการจีนเพื่อขอคำชี้แจงแล้ว
"การที่รัสเซียพยายามดึงจีนและประเทศอื่น ๆ เข้ามาเกี่ยวข้องกับสงครามในยุโรปครั้งนี้ ไม่ว่าจะทางตรงหรือทางอ้อม ถือเป็นสัญญาณชัดเจนว่า ปูตินไม่มีความตั้งใจที่จะยุติสงครามเลย" ปธน.เซเลนสกีกล่าว โดยเอ่ยถึงประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ขณะนี้ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่า ชายชาวจีนทั้งสองคนที่ถูกจับเป็นทหารจีนหรือเป็นเพียงอาสาสมัคร
ด้านอันดรีย์ ซีบิฮา รัฐมนตรีต่างประเทศยูเครน กล่าวว่า การที่พลเมืองจีนเข้าร่วมกับกองทัพรัสเซียที่รุกรานยูเครนนั้น "บ่อนทำลายความน่าเชื่อถือของรัฐบาลปักกิ่ง ในฐานะสมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ"
ซีบิฮาโพสต์ผ่านบัญชีเอ็กซ์ของตนว่า กระทรวงการต่างประเทศได้เชิญอุปทูตจีนประจำยูเครนเข้าพบเพื่อขอคำอธิบายในเรื่องดังกล่าว
ขณะเดียวกัน หลิน เจี้ยน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน แถลงข่าวในวันนี้ (9 เม.ย.) ว่า รัฐบาลจีนได้กำหนดให้พลเมืองของตน "อยู่ห่างจากพื้นที่ที่มีการสู้รบ" และ "หลีกเลี่ยงการเข้าร่วมปฏิบัติการทางทหารของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง"
หลินปฏิเสธคำกล่าวอ้างของปธน.เซเลนสกีที่ว่าอาจมีพลเมืองจีนอีกจำนวนมากเข้าร่วมสงคราม โดยยืนยันว่า "ไม่มีมูลความจริง" พร้อมเสริมว่า รัฐบาลปักกิ่งกำลังตรวจสอบข้อมูลเรื่องการควบคุมตัวพลเมืองจีนทั้งสองคนกับทางยูเครนอยู่
โฆษกฯ จีนเน้นย้ำว่า รัฐบาลจีนพยายามผลักดันให้เกิดการหยุดยิงมาโดยตลอด และเรียกร้องให้ยูเครน "มีมุมมองที่ถูกต้อง" ต่อความพยายามของจีนในการหาทางออกทางการเมืองเพื่อยุติวิกฤตการณ์ครั้งนี้