เจ.ดี. แวนซ์ รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้เข้าพบ นเรนทรา โมดี นายกรัฐมนตรีอินเดียเมื่อวันจันทร์ (21 เม.ย.) ในภารกิจเยือนอินเดีย 4 วันของแวนซ์ โดยทั้งสองต่างส่งสัญญาณบวกถึงความคืบหน้าในการเจรจาข้อตกลงการค้าระหว่างสองประเทศ
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นในขณะที่อินเดียกำลังเร่งหาทางหลีกเลี่ยงกำแพงภาษีของสหรัฐฯ และกระชับความสัมพันธ์กับรัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้การนำของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
แถลงการณ์จากสำนักนายกฯ โมดีระบุว่า นอกเหนือจากเรื่องการค้า ผู้นำทั้งสองยังได้หารือถึงความพยายามต่อเนื่องในการยกระดับความร่วมมือด้านพลังงาน กลาโหม และเทคโนโลยีเชิงยุทธศาสตร์ โดยในประเด็นระดับโลก ทั้งคู่ได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นและเน้นย้ำถึงความสำคัญของการเจรจาและการทูตเพื่อหาทางออก
"ท่านนายกรัฐมนตรีได้ฝากความปรารถนาดีไปยังประธานาธิบดีทรัมป์ และหวังว่าจะได้ต้อนรับการมาเยือนอินเดียของท่านประธานาธิบดีในช่วงปลายปีนี้" แถลงการณ์ระบุ
ขณะเดียวกัน แถลงการณ์จากฝั่งรัฐบาลทรัมป์ก็ระบุว่า ทั้งสองประเทศเห็นชอบในแผนงานสำหรับการหารือเรื่องการค้าในขั้นต่อไป โดยสำนักงานของแวนซ์ชี้ว่า การเจรจาครั้งนี้เป็น "โอกาสในการสร้างข้อตกลงการค้าฉบับใหม่ที่ทันสมัย ซึ่งมุ่งเน้นการสร้างงานและคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชนทั้งสองประเทศ"
อย่างไรก็ตาม เจมีสัน กรีเออร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ ได้ออกแถลงการณ์เมื่อวันจันทร์ชี้ว่า ความสัมพันธ์ทางการค้ากับอินเดียยัง "ขาดความเท่าเทียมกันอย่างมาก" ซึ่งเป็นประเด็นที่ต้องได้รับการแก้ไข
ทั้งนี้ นายกฯ โมดีเป็นหนึ่งในผู้นำระดับโลกคนแรก ๆ ที่เข้าพบทรัมป์หลังรับตำแหน่ง และมีรายงานก่อนหน้านี้ว่า รัฐบาลอินเดียพร้อมที่จะลดภาษีนำเข้าสินค้าสหรัฐฯ มากกว่าครึ่งเพื่อให้บรรลุข้อตกลงการค้า ถึงกระนั้น ทรัมป์ก็ยังคงวิจารณ์อินเดียว่าเป็น "จอมตั้งกำแพงภาษี" และ "ราชากำแพงภาษี"
ปัจจุบัน สหรัฐฯ คือคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของอินเดีย โดยมีมูลค่าการค้าทวิภาคีสูงถึง 1.29 แสนล้านดอลลาร์ในปี 2567 และอินเดียเป็นฝ่ายเกินดุลการค้าถึง 4.57 หมื่นล้านดอลลาร์
เจ้าหน้าที่ในนิวเดลีกำลังทำงานแข่งกับเวลา โดยหวังว่าจะสามารถบรรลุข้อตกลงการค้ากับสหรัฐฯ ได้ภายในช่วง 90 วันที่ทรัมป์ประกาศระงับการขึ้นภาษีเป็นการชั่วคราว (เริ่ม 9 เม.ย.) หากไม่สำเร็จ สินค้าส่งออกจำนวนมากของอินเดียอาจเผชิญภาษีสูงกว่า 25% ขณะที่ภาษี 10% ที่สหรัฐฯ เรียกเก็บจากสินค้านำเข้าหลายรายการก็ยังคงอยู่
นอกเหนือจากประเด็นการค้า การเยือนของแวนซ์ครั้งนี้ยังถูกมองว่าเป็นการปูทางสำหรับการเยือนอินเดียของทรัมป์ในช่วงปลายปี เพื่อเข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่ม Quad ซึ่งประกอบด้วยอินเดีย, ออสเตรเลีย, ญี่ปุ่น และสหรัฐฯ