เอสมาอิล บาแกอี โฆษกกระทรวงต่างประเทศอิหร่าน กล่าวว่า รัฐบาลสหรัฐฯ ไม่มีความปรารถนาดีและความจริงจังในการหารือกับทางการอิหร่าน หลังจากที่สหรัฐฯ ประกาศมาตรการคว่ำบาตรชุดใหม่ต่อภาคพลังงานของอิหร่านในวันอังคาร (22 เม.ย.) ก่อนการหารือนิวเคลียร์รอบที่สามระหว่างสองประเทศในวันเสาร์นี้
บาแกอีระบุในแถลงการณ์ว่า การเดินหน้าคว่ำบาตรต่อภาคส่วนทางเศรษฐกิจของอิหร่านนั้น ย้อนแย้งกับท่าทีเรียกร้องให้มีการพูดคุยและเจรจาของสหรัฐฯ อย่างชัดเจน และบ่งชี้ว่า สหรัฐฯ ไม่มีทั้งความปรารถนาดีและความจริงจังในเรื่องนี้
ทั้งนี้ สหรัฐฯ ประกาศมาตรการคว่ำบาตรชุดใหม่ซึ่งมุ่งเป้าไปที่เซย์เอ็ด อาซาดุลเลาะห์ เอมามโจเมห์ มหาเศรษฐีด้านก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) ของอิหร่านและเครือข่ายองค์กรของเขา ตามนโยบายกดดันขั้นสุด ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อทำให้การส่งออกน้ำมันของอิหร่านเป็นศูนย์ โดยความเคลื่อนไหวดังกล่าวของสหรัฐฯ เกิดขึ้นก่อนการเจรจาระดับสูงและระดับผู้เชี่ยวชาญระหว่างทั้งสองชาติที่ประเทศโอมาสในช่วงสุดสัปดาห์นี้ เพื่อเริ่มร่างกรอบการทำงานสำหรับข้อตกลงนิวเคลียร์
ก่อนหน้านี้ อับบาส อารักชี รัฐมนตรีต่างประเทศของอิหร่าน กล่าวกับสื่อของทางการอิหร่านระหว่างการเยือนกรุงปักกิ่ง ซึ่งเขาได้พบปะกับ ติง เสวี่ยเซียง รองนายกรัฐมนตรีจีนว่า ยังเร็วเกินไปที่จะตัดสินผลการเจรจาระหว่างอิหร่านกับสหรัฐฯ ซึ่งเขามองว่า กำลังมาถูกทางแล้ว
อารักชีกล่าวว่า "เรามีมุมมองเชิงบวกอย่างระมัดระวัง และหากสหรัฐฯ ยังคงดำเนินนโยบายเชิงสร้างสรรค์ และหลีกเลี่ยงข้อเรียกร้องที่ไม่สมเหตุสมผลและไม่สามารถบรรลุได้ ผมมั่นใจว่าเราจะได้ข้อตกลงที่ดีได้ในท้ายที่สุด"