จีนออกแถลงการณ์เรียกร้องให้สหรัฐฯ ยกเลิกมาตรการภาษีฝ่ายเดียวทั้งหมดที่ใช้กับสินค้าจีน พร้อมย้ำว่ายังไม่มีการเจรจาการค้าระหว่างสองประเทศ ท่ามกลางสถานการณ์ความตึงเครียดที่ทวีความรุนแรงขึ้น
เหอ หย่าตง โฆษกกระทรวงพาณิชย์ของจีน กล่าวในการแถลงข่าวประจำวันในวันนี้ (24 พ.ค.) ว่า หากสหรัฐฯ ต้องการแก้ไขปัญหาอย่างแท้จริง ก็ควรรับฟังเสียงเรียกร้องจากนานาชาติและจากภายในประเทศเอง และยกเลิกการเก็บภาษีฝ่ายเดียวทั้งหมดสำหรับสินค้าจีน
นอกจากนี้ เหอ ยังปฏิเสธข่าวลือเรื่องความคืบหน้าในการเจรจาว่าข่าวเหล่านั้นไร้มูลความจริง พร้อมเรียกร้องให้สหรัฐฯ แสดงความจริงใจ หากต้องการบรรลุข้อตกลง
ถ้อยแถลงดังกล่าวบ่งชี้ว่า แม้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ส่งสัญญาณว่าอาจพิจารณาลดภาษีนำเข้าจากจีน ซึ่งปัจจุบันสูงถึง 145% ก็อาจไม่เพียงพอที่จะลดความตึงเครียดได้
ที่ผ่านมา จีนแสดงท่าทีระมัดระวังต่อนโยบายภาษีที่เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาของทรัมป์ โดยก่อนหน้านี้เคยระบุว่าภาษีในระดับสูงเหล่านี้ "ไร้ความหมาย" พร้อมเตือนประเทศอื่น ๆ ให้หลีกเลี่ยงการทำข้อตกลงกับสหรัฐฯ ที่อาจกระทบต่อผลประโยชน์ของจีน
ขณะเดียวกัน พาน กงเซิ่ง ผู้ว่าการธนาคารกลางจีน (PBOC) ซึ่งอยู่ระหว่างการเข้าร่วมประชุม G20 ที่กรุงวอชิงตัน ได้แสดงความกังวลต่อผลกระทบจากความขัดแย้งทางการค้า โดยระบุว่าอาจนำไปสู่ภาวะความขัดแย้งสูง ความไว้วางใจต่ำในระบบเศรษฐกิจโลก
ทั้งนี้ แม้การประชุม IMF และธนาคารโลกที่จัดขึ้นในสัปดาห์นี้จะเป็นเวทีแรกที่เจ้าหน้าที่เศรษฐกิจของจีนมีโอกาสพบกับทีมของทรัมป์โดยตรงหลังการขึ้นภาษีครั้งล่าสุด แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการประกาศการเจรจาทวิภาคีอย่างเป็นทางการ