มุน แจอิน อดีตประธานาธิบดีเกาหลีใต้ออกมาตอบโต้ข้อกล่าวหาจากอัยการในวันนี้ (25 เม.ย.) โดยระบุว่า การถูกตั้งข้อหาพัวพันคดีรับสินบนนั้น "ไม่ยุติธรรม" และเป็นการแสดงให้เห็นถึงการใช้อำนาจในทางที่ผิดของฝ่ายอัยการอย่างชัดเจน
การแสดงความเห็นนี้เกิดขึ้นหลังอัยการยื่นฟ้องมุน แจอิน เพียงหนึ่งวัน ในข้อหาที่เกี่ยวโยงกับการอำนวยความสะดวกให้อดีตลูกเขยได้รับการว่าจ้างงานในสายการบินราคาประหยัด "ไทย อีสตาร์เจ็ท" (Thai EastarJet)
มุน แจอิน ซึ่งดำรงตำแหน่งผู้นำเกาหลีใต้ระหว่างปี 2560-2565 กล่าวระหว่างพบปะกับประธานรัฐสภา อู วอนซิก ว่า "แค่ตัวข้อกล่าวหาเองก็ไม่ยุติธรรมแล้ว มันให้ความรู้สึกเหมือน (อัยการ) กำลังลากคดีไปตามธงที่ตั้งไว้"
มุน แจอิน ยังเสริมว่า การตั้งข้อหาเกิดขึ้นอย่างกะทันหัน ทั้งที่ตนยังอยู่ในระหว่างประสานงานกับอัยการเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง
"อัยการตกเป็นเครื่องมือทางการเมืองไปแล้ว นี่ดูเหมือนจะเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของการใช้อำนาจโดยมิชอบของอัยการ" มุน แจอิน กล่าว
สำหรับข้อกล่าวหานั้น มุน แจอิน และดาฮเย บุตรสาว ถูกระบุว่ารับสินบนผ่านทางเงินเดือนและผลประโยชน์ตอบแทนอื่น ๆ ที่สายการบินมอบให้กับอดีตสามีของดา-ฮเย ผู้ใช้นามสกุล "ซอ" โดยซอได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้บริหารระดับสูงของสายการบินในปี 2561 หลังจากที่อี ซังจิก ผู้ก่อตั้งสายการบิน ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมและสตาร์ตอัปแห่งเกาหลี (Korea SMEs and Startups Agency)
ด้วยเหตุนี้ ฝ่ายอัยการจึงตั้งข้อสงสัยว่า การแต่งตั้งอี ซังจิก อาจเป็นข้อแลกเปลี่ยนกับการที่สายการบินต้องจ้างงานซอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อซอไม่มีประสบการณ์ในอุตสาหกรรมการบินมาก่อนในขณะนั้น
นอกจากนี้ ยังมีข้อมูลว่า มุน แจอิน ได้หยุดให้การสนับสนุนทางการเงินแก่ครอบครัวของบุตรสาวหลังจากที่ซอได้เข้าทำงานที่สายการบินดังกล่าวแล้ว อัยการประเมินว่า เงินเดือนและค่าตอบแทนอื่น ๆ รวมประมาณ 217 ล้านวอน (151,125 ดอลลาร์สหรัฐ) ที่สายการบินจ่ายให้กับซอและดาฮเยนั้น แท้จริงแล้วคือสินบนที่ส่งผ่านไปถึงอดีตประธานาธิบดีนั่นเอง