สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างอินเดียกับปากีสถานร้อนระอุขึ้นอีกครั้ง หลังเกิดเหตุกราดยิงนักท่องเที่ยว 26 รายเสียชีวิตในดินแดนแคชเมียร์ฝั่งอินเดียเมื่อต้นสัปดาห์นี้ ส่งผลให้ในวันนี้ (25 เม.ย.) พลเอก อูเพนทรา ทวิเวที ผู้บัญชาการทหารบกอินเดีย ต้องลงพื้นที่เพื่อทบทวนมาตรการรักษาความปลอดภัยด้วยตนเอง และคาดว่าจะเดินทางไปยังจุดเกิดเหตุโดยตรง ท่ามกลางความหวั่นวิตกว่าความขัดแย้งรอบใหม่กับปากีสถานอาจบานปลายและส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพในภูมิภาคและตลาดการเงิน
อินเดียได้ชี้เป้าอย่างชัดเจนว่ามี "องค์ประกอบของปากีสถาน" อยู่เบื้องหลังการสังหารหมู่เมื่อวันอังคาร (22 เม.ย.) ณ ทุ่งหญ้าในเขตปาฮัลกัม อย่างไรก็ตาม ทางการปากีสถานได้ออกมาโต้ว่า ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใด ๆ ทั้งสิ้น
ความขัดแย้งครั้งนี้เกิดขึ้นระหว่างสองประเทศเพื่อนบ้านที่มีอาวุธนิวเคลียร์ในครอบครอง ซึ่งต่างอ้างกรรมสิทธิ์เหนือดินแดนแคชเมียร์ทั้งหมด แต่ปกครองอยู่เพียงคนละส่วน อินเดียซึ่งประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวฮินดู มักกล่าวหาปากีสถานซึ่งเป็นรัฐอิสลามว่าให้การสนับสนุนกลุ่มแบ่งแยกดินแดนที่ต่อสู้กับกองกำลังความมั่นคงอินเดียมานานหลายทศวรรษ อันเป็นข้อกล่าวหาที่ปากีสถานปฏิเสธเสมอมา
ท่าทีแข็งกร้าวระหว่างสองประเทศปรากฏชัดขึ้นผ่านการใช้มาตรการตอบโต้หลายอย่าง โดยอินเดียได้ระงับข้อตกลงแบ่งปันน้ำในแม่น้ำสินธุ ขณะที่ปากีสถานตอบโต้ด้วยการปิดน่านฟ้าห้ามสายการบินอินเดียผ่าน
การลงพื้นที่ของผบ.ทบ. อินเดีย เกิดขึ้นเพียงหนึ่งวันหลังจากนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี ประกาศกร้าวว่าจะไล่ล่าผู้ก่อเหตุครั้งนี้ "ไปจนสุดขอบโลก"
ความตึงเครียดที่ปะทุขึ้นส่งผลกระทบต่อตลาดการเงินอินเดียทันที โดยในวันนี้ ดัชนีหุ้นหลักร่วงลงราว 1% ขณะที่ค่าเงินรูปีอ่อนตัวลง และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีพุ่งสูงขึ้น
ขณะเดียวกัน การปิดน่านฟ้าของปากีสถานส่งผลให้สายการบินอินดิโก (IndiGo) และแอร์อินเดีย (Air India) ซึ่งเป็นสายการบินชั้นนำของอินเดีย ยืนยันว่าเที่ยวบินระหว่างประเทศหลายเส้นทาง โดยเฉพาะที่มุ่งหน้าสู่สหรัฐฯ และยุโรป ต่างได้รับผลกระทบ โดยต้องใช้เวลาบินนานขึ้นและอาจต้องเปลี่ยนเส้นทาง
สถานการณ์ดังกล่าวยังปลุกความหวั่นวิตกว่าอินเดียอาจใช้ปฏิบัติการทางทหารตอบโต้ในดินแดนปากีสถาน ซ้ำรอยเหตุการณ์ในปี 2562 ที่อินเดียส่งเครื่องบินไปโจมตี หลังเกิดเหตุระเบิดฆ่าตัวตายในแคชเมียร์ฝั่งอินเดียคร่าชีวิตตำรวจกึ่งทหารไปถึง 40 นาย
นอกจากนี้ มีรายงานว่า แกนนำหลายคนในพรรคภารตียชนตา (BJP) ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลชาตินิยมฮินดูของนายกฯ โมดี ออกมาเรียกร้องให้ใช้กำลังทหารจัดการกับปากีสถาน
เจ้าหน้าที่อินเดียยืนยันว่า การโจมตีเมื่อวันอังคารมี "ความเชื่อมโยงข้ามพรมแดน" และตำรวจแคชเมียร์ได้เผยแพร่ประกาศระบุตัวผู้ต้องสงสัยว่า "มีส่วนเกี่ยวข้อง" 3 ราย โดยอ้างว่า 2 รายในนั้นเป็นชาวปากีสถาน แต่ยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดหรือหลักฐานสนับสนุนคำกล่าวอ้างดังกล่าว
ขณะเดียวกัน มีรายงานว่าเมื่อช่วงเช้าวันนี้ ทางการในแคชเมียร์ฝั่งอินเดียได้เข้ารื้อถอนบ้านพักของผู้ต้องสงสัยว่าเป็นกลุ่มติดอาวุธ 2 ราย ซึ่งหนึ่งในนั้นถูกกล่าวหาว่าเชื่อมโยงกับเหตุโจมตีล่าสุด การดำเนินการลักษณะนี้ ซึ่งถูกขนานนามว่า "ความยุติธรรมด้วยรถดันดิน" (Bulldozer Justice) กลายเป็นประเด็นที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งในรัฐที่ปกครองโดยพรรค BJP โดยมุ่งเป้าไปที่บ้านหรือร้านค้าที่ถูกอ้างว่าผิดกฎหมายของผู้ถูกกล่าวหาในคดีต่าง ๆ ซึ่งหลายรายเป็นชาวมุสลิม