นายซีซีระบุถึงเจตนารมณ์ดังกล่าวในแถลงการณ์ถึงกลุ่มภราดรภาพมุสลิมที่ตั้งตัวเป็นปฏิปักษ์กับกองกำลังรักษาความมั่นคง หลังกองกำลังรักษาความมั่นคงขับนายมอร์ซีออกจากตำแหน่งเมื่อช่วงต้นเดือนก.ค. และเมื่อวันพุธที่แล้วก็ได้สลายการชุมนุมของผู้ประท้วง 2 กลุ่มใหญ่ที่ปักหลักอยู่ในกรุงไคโรและกิซ่า ซึ่งส่งผลให้กลุ่มมุสลิมยิ่งไม่พอใจมากขึ้น
รมว.กลาโหมแถลงต่อสาธารณชนเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่วันพุธที่แล้วว่า “ใครก็ตามที่คิดว่าการใช้ความรุนแรงจะทำให้รัฐล้มลงได้ เขาคนนั้นควรคิดใหม่เสีย เพราะว่าเราจะไม่มีวันอยู่นิ่งเฉยในขณะที่ประเทศกำลังถูกทำลาย" นับเป็นการยืนยันอย่างหนักแน่นในการตอบโต้การโจมตีสถานีตำรวจ หน่วยงานรัฐ และสถานที่สำคัญทางศาสนา
นายซีซีกล่าวว่า ทุกฝ่ายต่างมีโอกาสคิดหาแนวทางสันติเพื่อกู้วิกฤตการณ์ที่กำลังดำเนินอยู่ในขณะนี้ และได้เรียกร้องบรรดาสมาชิกของคณะบริหารชุดที่แล้วให้เข้ามามีส่วนร่วมในกระบวนการทางการเมืองตามโร้ดแมพที่วางไว้แทนการทำลายประเทศ
ด้านนายฮาเซม อัล-เบบลาวี รักษาการนายกรัฐมนตรีของอียิปต์ ระบุในแถลงการณ์ของรัฐบาลว่า อียิปต์จะรับมือกับการใช้ความรุนแรงต่อไปอย่างมั่นคงและเด็ดขาด ก่อนที่จะมีการใช้โร้ดแมพที่มุ่งเน้นไปที่การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ตามมาด้วยการเลือกตั้งรัฐสภาและการเลือกตั้งประธานาธิบดี
เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา กลุ่มพันธมิตรเพื่อประชาธิปไตย ซึ่งสนับสนุนอดีตประธานาธิบดีมอร์ซี และประกอบด้วยองค์กรมุสลิม 33 แห่งซึ่งรวมถึงกลุ่มภราดรภาพมุสลิม ได้ยกเลิกการแถลงข่าว 2 ครั้งที่จะมีขึ้นบริเวณนอกศาลรัฐธรรมนูญสูงสุดในเขตมาดี และที่จตุรัสรอคซี ในเขตเฮลิโอโปลิส กรุงไคโร นอกจากนี้ยังยกเลิกการเดินขบวนหลายจุดในเมืองหลวง เนื่องจากหวาดกลัวรายงานข่าวที่ว่า มีกลุ่มมือปืนดักซุ่มอยู่ตามเส้นทางเดินขบวน
ด้านกระทรวงมหาดไทยได้ประกาศเตือนให้ระวังกลุ่มต่างๆที่อาสาเข้ามาปกป้องมวลชน แต่ที่จริงแล้วฉวยโอกาสก่ออาชญากรรมในสถานการณ์เช่นนี้ รวมถึงร้องขอให้ประชาชนปฏิบัติตามเคอร์ฟิว เพื่อช่วยให้กองกำลังรักษาความมั่นคงสามารถทำงานได้อย่างเต็มที่
อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์รุนแรงยังคงลุกลามไปทั่วประเทศในวันนี้ โดยเหตุการณ์ที่ร้ายแรงที่สุดเกิดขึ้นในเขตคัลยูบิยา ซึ่งสมาชิกกลุ่มภราดรภาพมุสลิมเสียชีวิต 36 รายในเหตุจลาจล เนื่องจากพยายามหลบหนีขณะถูกส่งตัวไปยังเรือนจำ
สำนักข่าว MENA ระบุว่า เกิดเหตุปะทะกันระหว่างกองกำลังรักษาความมั่นคงและกลุ่มผู้ประท้วงที่เข้าขัดขวางและโจมตีรถตำรวจซึ่งบรรทุกสมาชิกกลุ่มภราดรภาพมุสลิมไปคุมขังในเรือนจำอาบู ซาบาล ในเขตคัลยูบิยา ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงไคโรไปทางทิศเหนือ 60 กิโลเมตร
การปะทะเกิดขึ้นก่อนที่รถตำรวจจะเข้าไปยังเขตเรือนจำ ผู้ถูกคุมขังพยายามหลบหนีโดยได้รับความช่วยเหลือจากกลุ่มผู้ประท้วงที่จับตำรวจรายหนึ่งเป็นตัวประกัน
กระทรวงมหาดไทยกล่าวว่า มีผู้เสียชีวิต 36 รายเพราะขาดอากาศหายใจและถูกเหยียบหลังกองกำลังรักษาความมั่นคงยิงแก๊สน้ำตาเพื่อขัดขวางไม่ให้หลบหนี อย่างไรก็ตาม กลุ่มผู้ประท้วงกล่าวว่า พวกเขาถูกกองกำลังรักษาความมั่นคง "สังหาร"
ขณะเดียวกันมีตำรวจ 1 นายและทหารเกณฑ์อีก 1 นายเสียชีวิต และทหารเกณฑ์อีก 2 นายได้รับบาดเจ็บ หลังจากที่กลุ่มภราดรภาพมุสลิมได้กราดยิงหน่วยลาดตระเวนที่กำลังตรวจตราถนนอิสไมเลีย-ไคโร
ทั้งนี้ กระทรวงมหาดไทยระบุว่า ยอดผู้เสียชีวิตทั้งหมดในอียิปต์ตั้งแต่วันพุธที่แล้วได้พุ่งขึ้นแตะ 866 ราย ซึ่งรวมถึงตำรวจ 70 ราย