รัสเซียได้ออกมาแสดงจุดยืนของประเทศ ในขณะที่ชาติตะวันตกเล็งดึงมติข้อตกลงเรื่องซีเรียของยูเอ็นเข้ากับบทบัญญัติที่ 7 เพื่อสร้างความมั่นใจว่า จะได้รับความร่วมมือจากทางซีเรีย
สำนักข่าวซานาของซีเรียรายงานว่า การแสดงความคิดเห็นของรมว.ต่างประเทศรัสเซียดังกล่าวมีขึ้นในระหว่างการประชุมร่วมกับนายวาลิด อัล-โมเลม รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศซีเรีย
อย่างไรก็ดี สหรัฐได้ออกมาเตือนว่า การข่มขู่ที่จะใช้กองกำลังจะยังคงเป็นทางเลือกที่ไม่ได้ถูกยกเลิกไปแต่อย่างใด การที่ยังคงเป้าหมายนี้ไว้ก็เพื่อสร้างความมั่นใจว่า ซีเรียจะยังคงปฏิบัติตามในเรื่องข้อตกลงที่ได้มีการสรุปกันไว้
เมื่อวานนี้ ผู้แทนของสหรัฐ รัสเซีย อังกฤษ ฝรั่งเศส และจีน ได้เริ่มหารือกันเกี่ยวกับร่างมติข้อตกลงซีเรียที่ทางชาติตะวันตกได้จัดทำขึ้นมา โดยมีเป้าหมายเพื่อทำลายอาวุธเคมีของซีเรียภายใต้กรอบเวลาที่ได้มีการกำหนดขึ้นมา
ชาติพันธมิตรตะวันตกได้ย้ำว่า ซีเรียจะต้องพบกับบทเรียนหากไม่ปฏิบัติตามขีดเส้นตายที่ร่างมติข้อตกลงของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติกำหนดขึ้นมา เพื่อนำไปสู่การทำลายอาวุธเคมี
การประชุมเมื่อวานนี้มีขึ้นภายหลังการเปิดเผยรายงานของคณะผู้ตรวจสอบของยูเอ็นที่บ่งชี้ว่า มีการใช้อาวุธเคมีในเมืองโกตา ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับกรุงดามัสกัสในวงกว้าง ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก และส่วนใหญ่เป็นพลเรือนและเด็กๆ
รายงานดังกล่าวไม่ได้ระบุว่า ฝ่ายใดเป็นผู้ที่ใช้อาวุธเคมี เพียงแต่จัดขึ้นเพื่อชี้ว่ามีการใช้อาวุธเคมีจริงหรือไม่
คาลาฟ อัล-มิฟทาห์ รัฐมนตรีช่วยกระทรวงสื่อสารของซีเรียตั้งความหวังว่า จะมีการสอบสวนเรื่องการใช้อาวุธเคมี เพื่อสรุปให้ได้ว่า ผู้ใดอยู่เบื้องหลังการใช้อาวุธเคมี
นายคาลาฟกล่าวกับซินหัวว่า เราหวังว่า จะมีการสอบสวนเพื่อหาตัวผู้ที่ใช้อาวุธเคมีผ่านกลไกภายใต้การประสานงานกับรัฐบาลซีเรีย
นายอัล-มิฟทาห์ กล่าวว่า ข้อความอ้างที่ทางสหรัฐเสนอเรื่องการโจมตีทางทหารต่อซีเรียนั้นมีอันต้องตกไป เพราะไม่ควรจะนำประเด็นเรื่องการข่มขู่หรืออาวุธเคมีมาเป็นข้ออ้างในการรุกรานซีเรีย
นายอัล-มิฟทาห์ กล่าวว่า ซีเรียได้ตอบรับสมาชิกขององค์การเพื่อการห้ามใช้อาวุธเคมี ซึ่งแสดงให้เห็นว่า ซีเรียไม่ต้องการการรุกราน แต่ต้องการส่งเสริมสันติภาพ