สต็อกสินแร่เหล็กใน 25 เมืองใหญ่ของจีนเพิ่มขึ้นเมื่อสัปดาห์ก่อนหน้านี้ โดยเพิ่มขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 4 ติดต่อกัน สถิติทางอุตสาหกรรมระบุว่า สต็อกสินแร่เหล็กนำเข้าอยู่ที่ระดับ 77.82 ล้านตัน ซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 29 ต.ค.-4 พ.ย. เพิ่มขึ้น 1.29 ล้านตัน หรือ 1.68% จากสัปดาห์ก่อนหน้านี้
นักวิเคราะห์กล่าวว่า อุปสงค์จากผู้ผลิตเหล็กจะยังคงซบเซาในเดือนพ.ย. เนื่องจากเป็นช่วงที่อุตสาหกรรมชะลอตัว และไม่มีแนวโน้มว่าจะมีคำสั่งซื้อจำนวนมาก
นอกจากนี้ นักวิเคราะห์ยังกล่าวอีกว่า การประชุมพรรคคอมมิวนิสต์ของจีนจะส่งให้เกิดนโยบายเชิงบวกต่ออุตสาหกรรมนี้ และราคาเหล็กกล้าอาจดีดตัวขึ้นในช่วงสั้นๆ
ทั้งนี้ อุปสงค์สินแร่เหล็กภายในประเทศสูงขึ้นในสามไตรมาสแรก ปริมาณการผลิตและการนำเข้าทะยานขึ้นในช่วงเดือนม.ค.-ก.ย.ในปีนี้
เซี่ยงไฮ้ ซิเคียวริตี้ส์ นิวส์ รายงานโดยอ้างสถิติว่า อัตราการทำเหมืองแร่ภายในประเทศดีดตัวขึ้นในช่วงเดือนก.ค.-ส.ค. เนื่องจากราคาสินแร่เหล็กปรับตัวขึ้นในทางใต้และทางเหนือของจีน โดยอัตราดังกล่าวปรับตัวขึ้นคงที่จากความกระตือรือร้นอย่างสูงของคนงาน
สำนักงานสิถิติแห่งชาติระบุว่า ผลผลิตแร่ดิบภายในประเทศอยู่ที่ระดับ 136 ล้านตันในเดือนก.ย. เมื่อเทียบรายไตรมาส เพิ่มขึ้น 6.81 ล้านตัน หรือ 5.2% และเหล็กดิบเพิ่มขึ้น 11% เมื่อเทียบรายปี แตะ 65.422 ล้านตัน
อย่างไรก็ดี อุปทานภายในประเทศลดลงในเดือนพ.ย. เนื่องจากจีนกระตุ้นเรื่องการปกป้องสภาพแวดล้อมที่เข้มงวดขึ้น ซึ่งรวมถึงการปรับการจัดการเหมืองขนาดเล็กและขนาดกลางใหม่ในบริเวณโดยรอบ สำนักข่าวซินหัวรายงาน