ทั้งนี้ ผลการสำรวจบริษัทรายใหญ่ในญี่ปุ่นจำนวน 104 บริษัทบ่งชี้ว่า บริษัทหลายแห่งในญี่ปุ่นยังคงมีความระมัดระวังต่อการปรับเพิ่มค่าจ้าง แม้ว่าจะมีเสียงร้องขอจากนายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ซึ่งพยายามป้องกันไม่ให้เศรษฐกิจญี่ปุ่นเกิดความชะงักงัน เมื่อมีการปรับเพิ่มภาษีขายในเดือนเม.ย.นี้
ด้านสมาพันธ์สหภาพการค้าของญี่ปุ่น (Rengo) ซึ่งเป็นสหภาพแรงงานรายใหญ่สุดในญี่ปุ่น ได้ประกาศว่า ทางสมาพันธ์จะเรียกร้องให้มีการปรับเพิ่มค่าจ้างพื้นฐานเป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปี ระหว่างการประชุมว่าด้วยค่าจ้างแรงงาน-บริหารประจำปีในฤดูใบไม้ผลินี้
จากบริษัทผู้ตอบแบบสำรวจทั้งหมด มีบริษัททั้งสิ้น 17 แห่งที่กล่าวว่าอาจจะจะไม่มีการปรับค่าจ้าง ขณะที่มีบริษัทแห่งหนึ่งระบุว่าจะปรับลดค่าจ้าง แต่ก็มีบริษัทอีกหลายแห่งที่ส่งสัญญาณว่าอาจจะปรับเพิ่มค่าจ้าง หากทางบริษัทมีรายได้เพิ่มขึ้น
เมื่อพิจารณาถึงภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน มีบริษัทจำนวน 101 แห่งที่เห็นว่า "เศรษฐกิจอยู่ในช่วงขาขึ้น" แต่ยังคงมีความระมัดระวังต่อผลกระทบในเชิงลบจากการปรับเพิ่มภาษี โดยบริษัท 40 แห่งได้แสดงความวิตกต่อแนวโน้มยอดขายขาลงในอนาคต หลังประชาชนใช้จ่ายน้อยลง
ทั้งนี้ บริษัทผู้ตอบแบบสำรวจ 90 แห่งได้แสดงเสียงสนับสนุนการปรับเพิ่มภาษีที่กำลังจะเกิดขึ้น
ส่วนในเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนดอลลาร์/เยนนั้น บริษัทหลายๆแห่งมีทัศนคติในเชิงบวกต่อการซื้อขายเงินดอลลาร์ในกรอบ 95-105 เยน อย่างไรก็ตามบริษัทบางแห่งได้แสดงความวิตกว่า เงินเยนที่อ่อนค่าลงมากเกินไปอาจจะทำให้ราคาวัสดุและเชื้อเพลิงนำเข้าพุ่งสูงขึ้น สำนักข่าวเกียวโดรายงาน