จากการสำรวจพบว่า ชาวเยอรมันส่วนใหญ่สามารถออมเงินสูงสุด 200 ยูโร (271 ดอลลาร์สหรัฐ) ต่อเดือน ขณะที่ผู้ตอบสำรวจ 14% ระบุว่าไม่เก็บเงินเลย
รัฐเมคเลนบวร์ก-ฟอร์พอมเมิร์น ซึ่งเป็นรัฐของเยอรมนีที่ติดทะเลและมีจำนวนประชากรน้อยนั้น มีสัดส่วนการออมสูงสุด โดยประชากรในรัฐนี้ 69% ออมเงินเป็นกิจวัตร ขณะที่เมืองฮัมบวร์ก ซึ่งเป็นเมืองท่าทางตอนเหนือนั้น ครอบอันดับ 2 ที่ 68% และรัฐบาวาเรียตอนใต้ของเยอรมนีตามมาในอันดับ 3 โดยอัตราการออมเป็นกิจวัตรอยู่ที่ 66%
ผลสำรวจระบุด้วยว่า ชาวเยอรมัน 60% ต้องการรักษาระดับการออมเงินต่อเดือนต่อไป ขณะที่ 20% ระบุว่าต้องการจะยอมน้อยลง โดยมีเพียง 17% ที่ตอบว่าต้องการเก็บเงินเพิ่มขึ้นด้วยวิธีการต่างๆ อาทิ ลดรายจ่ายค่าอาหารหรือการเข้าร้านอาหาร เพื่อให้บรรลุแผนสำหรับอนาคต
ทั้งนี้ ฟอร์ซาได้สำรวจความคิดเห็นชาวเยอรมันทั้งสิ้น 1,650 คน ที่มีอายุระหว่าง 18-69 ปี โดยสอบถามเกี่ยวกับพฤติกรรมการออมเงินตั้งแต่ช่วงกลางเดือนถึงปลายเดือนต.ค. สำนักข่าวซินหัวรายงาน