นายฌอง-ปอล โทรอาเดค์ อดีตผู้อำนวยการ BEA กล่าวว่า “การค้นหาในทะเลเป็นสิ่งที่ยากมาก โดยเฉพาะเมื่อคุณไม่รู้ว่าเครื่องบินหายไปที่จุดไหนกันแน่ นอกจากนี้ พื้นผิวทะเลยังมีของเสียมากมาย เราจึงไม่สามารถแน่ใจได้ว่าของเหล่านั้นมาจากเครื่องบิน หรือก่อนที่เราจะไปถึง"
ทั้งนี้ เรือและเครื่องบินจำนวนหลายสิบลำจากประมาณ 10 ประเทศ กำลังค้นหาบริเวณน่านน้ำรอบๆ จุดล่าสุดที่พบเครื่องบินเที่ยวบิน MH370 ก่อนที่จะสูญหายไป แต่ยังไม่พบร่องรอยที่แน่ชัด
เครื่องบินโบอิ้ง 777 ซึ่งบรรทุกผู้โดยสาร 227 ราย และลูกเรือ 12 ราย หายไปจากจอเรดาร์อย่างกะทันหัน เมื่อเช้าวันเสาร์ ขณะที่บินในเส้นทางจากกัวลาลัมเปอร์ไปปักกิ่ง
นายโทรอาเดค์ กล่าวว่า “การค้นหาซากเครื่องบินและกล่องดำอาจทำได้ในเวลาเดียวกัน แต่เนื่องจากสภาพอากาศและกระแสน้ำที่ผิวทะเลเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การระบุจุดที่เกิดเหตุดังกล่าวจึงทำได้ยากขึ้น" เขากล่าวเสริมว่า “การค้นหากล่องดำใต้ทะเลก็ทำได้ยากเช่นกัน แม้ว่ากล่องดำจะสามารถส่งสัญญาณเสียงใต้น้ำได้ในช่วงวันแรกๆ ซึ่งอาจส่งสัญญาณได้ประมาณ 30-40 วัน ขึ้นอยู่กับแบตเตอรี่"
นายโทรอาเดกกล่าวสรุปว่า การค้นหาเครื่องบินที่สูญหายสามารถทำได้ แต่อาจใช้เวลานานมาก “ยิ่งพื้นที่ค้นหาขยายออกไป เราต้องใช้เวลาในการค้นหามากขึ้น และใช้ค่าใช้จ่ายมากขึ้น สิ่งสำคัญที่สุดคือต้องพยายามทำทุกวิถีทางที่เป็นไปได้ เพื่อกำหนดพื้นที่ขนาดเล็กที่สุดเท่าที่เป็นไปได้สำหรับการค้นหาและช่วยเหลือ" สำนักข่าวซินหัวรายงาน