บริษัทหลายแห่งเผยว่า การดำเนินงานจ่ายค่าสินไหมเริ่มขึ้นอย่างทันทีหลังนายราจิบ ราซัค นายกรัฐมนตรีมาเลเซียได้ประกาศว่าเที่ยวบินดังกล่าวได้ "ตก" ลงบริเวณตอนใต้ของมหาสมุทรอินเดีย แม้ว่ายังไม่มีหลักฐานหรือข้อมูลสนับสนุนข้อสรุปดังกล่าวอย่างชัดเจนก็ตาม
ไชน่า ไลฟ์ บริษัทประภัยรายใหญ่ที่สุดของจีน เผยว่ามีลูกค้าบนเที่ยวบินดังกล่าว 32 คน และคาดว่าค่าสินไหมโดยรวมน่าจะอยู่ราวๆ 9 ล้านหยวน (1.46 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) โดยทางบริษัทได้จ่ายค่าสินไหมไปแล้วเป็นจำนวน 4.17 ล้านหยวนแก่ครอบครัวของลูกค้า 7 รายเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา
โฆษกของไชน่า ไลฟ์ กล่าวว่า "ไชน่า ไลฟ์ รู้สึกเสียใจเป็นอย่างยิ่งต่อเหตุการณ์ดังกล่าว และเราจะดำเนินงานอย่างเต็มความสามารถเพื่อจ่ายค่าสินไหมและบริการที่เกี่ยวข้องได้ทั้งหมด"
นอกจากนี้ บริษัทไชน่า แปซิฟิก อินชูแรนซ์ ในเซี่ยงไฮ้ เปิดเผยว่า นับจนถึงเมื่อวานนี้ทางบริษัทได้จ่ายค่าสินไหมก้อนแรกเป็นมูลค่า 525,000 หยวน
ในขณะเดียวกัน ซันไชน์ อินชูแรนซ์ เผยว่าทางบริษัทได้จ่ายค่าสินไหมไปเป็นจำนวน 500,000 หยวนแก่ครอบครัวหนึ่งซึ่งมีสมาชิกสามคน ได้แก่นายหู ภรรยาและลูกสาว ที่ล้วนอยู่บนเที่ยวบินดังกล่าว โดยชี้ว่าเงินชดเชยดังกล่าวมาจากสวัสดิการที่นายจ้างได้ทำไว้
ส่วนบริษัทนิว ไชน่า ไลฟ์ อินชูแรนซ์ คาดว่าเงินสินไหมจะมีมูลค่า 1 ล้านหยวน สำหรับลูกค้า 9 รายบนเที่ยวบินดังกล่าว
เต๋า กัวจู ศาสตราจารย์ประจำภาควิชาการประกันภัยและเศรษฐศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัย University of International Business and Economics เปิดเผยว่า ผู้โดยสารสามารถรับเงินค่าสินไหมได้สามประเภทด้วยกัน ได้แก่ เงินจากสายการบิน เงินประกันอุบัติเหตุส่วนตัว และประกันชีวิตอื่นๆที่ให้เงินชดเชยกรณีเสียชีวิต