“หลังจากระงับโครงการก่อสร้างแล้ว เราหวังว่า ประชาชนจะมีเวลาคิด และร่วมกันหารือเกี่ยวกับเรื่องนี้ ก่อนที่จะตัดสินใจลงความเห็นใดๆ" นายเจียงกล่าวแถลงข่าว
การประกาศดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่ประธานาธิบดีหม่า อิงจิ่ว กล่าวเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่า ตนจะเปิดโอกาสให้ชาวไต้หวันได้ตัดสินชี้ชะตาโรงไฟฟ้านิวเคลียร์แห่งที่ 4 ซึ่งจะเป็นบ่อเกิดของปัญหาในการทำประชามติครั้งนี้"
ทั้งนี้ พรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า (DPP) ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้าน ต้องการให้จัดการลงประชามติภายในสิ้นปีนี้ แต่นายเจียงระบุว่า ไม่มีกำหนดเวลาในการดำเนินเรื่องดังกล่าว
เมื่อเร็วๆนี้ ประธานาธิบดีหม่าเผยว่า ควรจะจัดการลงประชามติหลังจากมีการตรวจสอบเรื่องความปลอดภัยเรียบร้อยแล้ว
เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้พรรค DPP กล่าวหาผู้นำประเทศซึ่งดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีมาตั้งแต่ปี 2551 ว่า ตั้งใจละทิ้งปัญหาที่เรื้อรังมานานหลายทศวรรษให้กับประธานาธิบดีคนต่อไปรับผิดชอบ เนื่องจากเขาอาจจะหมดวาระการดำรงตำแหน่งสมัยที่ 2 ในช่วงที่การตรวจสอบความปลอดภัยเสร็จเรียบร้อยพอดี
ขณะเดียวกัน นายเจียงได้ปฏิเสธข้อเสนอของพรรคฝ่ายค้านในการใช้กฎหมายพิเศษเพื่อจัดทำประชามติภายในสิ้นปีนี้ รวมไปถึงข้อเรียกร้องให้ผ่อนคลายกฎหมายการทำประชามติ
ชาวไต้หวันจำนวนมากได้เรียกร้องให้รัฐบาลระงับการก่อสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์แห่งที่ 4 หลังจากที่เกิดความล่าช้าในการก่อสร้าง และความผิดพลาดในการบริหารจัดการมาอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ ความวิตกกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ได้ระอุขึ้นอีกครั้งพร้อมกับประเด็นเรื่องอุบัติภัยของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะที่ญี่ปุ่นในวันที่ 11 มี.ค. 2554 สำนักข่าวเกียวโดรายงาน