กลุ่ม ANSWER (Act Now to Stop War and End Racism) ในลอสแองเจลิส เปิดเผยว่าการชุมนุมต่อต้านการทำสงครามนั้น จะถูกจัดขึ้นทั่วสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยจะมีการแสดงจุดยืนทั่วประเทศในวันเสาร์ที่กำลังจะถึง
กลุ่ม ANSWER ชี้ว่า รัฐบาลสหรัฐมีแนวโน้มสูงที่จะใช้กำลังทางทหารในอิรักอีกครั้ง
กลุ่ม ANSWER ระบุว่า "เมื่อไม่นานมานี้ประชาชนชาวสหรัฐเพิ่งได้เฉลิมฉลองจุดจบของสงครามอิรักที่ใช้งบประมาณมหาศาล เพียงเพื่อเผชิญกับเหตุการณ์ดังกล่าวอีกครั้ง หลังจากที่รัฐบาลสหรัฐได้พิจารณาการโจมตีทางอากาศ ซึ่งได้คร่าชีวิตชาวอิรักไปกว่าหลายแสนรายในช่วงสงครามอิรัก อีกทั้งยังได้ส่งนาวิกโยธินไปกว่า 275 รายไปยังกรุงแบกแดด"
บรรดาทหารผ่านศึกและครอบครัวได้เข้าร่วมการประชุมสื่อเมื่อวานนี้ที่ลอสแองเจลิส เพื่อแบ่งปันมุมมองต่อสถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นในอิรัก ตลอดจนแนวโน้มการใช้กำลังทางทหารของสหรัฐที่มากกว่าเดิม
ไมค์ พริสเนอร์ ทหารผ่านศึกสงครามอิรัก กล่าวว่า "ผมเคยมีส่วนร่วมในการรุกรานเมื่อเดือนมี.ค. 2546 และได้ใช้เวลาถึง 12 เดือนในอิรัก ผมเห็นเหล่าผู้บังคับบัญชาของเราแบ่งแยกรัฐบาลใหม่ตามภาคส่วนย่อยๆ ผมจำได้ว่าผมได้รับคำสั่งเพื่อให้การสนับสนุนบางเชื้อชาติมากกว่าเชื้อชาติอื่นๆ ผมทราบถึงประวัติศาสตร์ในการใช้แนวทางการแบ่งแยกเพื่อควบคุมประชากร"
พริสเนอร์ กล่าวว่า "ผมรู้สึกเสียใจเป็นอย่างยิ่งที่ทราบถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน เนื่องจากการรุกรานที่ผมมีส่วนร่วมด้วยนั้นเป็นสาเหตุของปัญหาทั้งหมด ผมแทบไม่อยากเชื่อว่า หลังจากที่เกิดเหตุนองเลือดจากทั้งทหารสหรัฐและอิรัก เราจะต้องเผชิญกับสงครามอิรักจากสหรัฐอีกครั้ง"
แพต อัลวีโซ จากองค์กร Military Families Speak Out กล่าวว่า "รัฐบาลสหรัฐได้ส่งทหารไปยังอิรักถึง 275 คน โดยลูกชายของฉันถูกส่งไปถึง 3 ครั้ง หากเราไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้หลังจากที่เกิดสงครามมาอย่างยาวนานถึงหนึ่งทศวรรษ แล้วการโจมตีทางอากาศจะช่วยอะไรได้"
เธอกล่าวว่า "คนที่เดือดร้อนมากที่สุดจากระเบิดของเรานั้นได้แก่ประชาชนผู้บริสุทธิ์ในอิรักกว่า 1 ล้านคน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเพศหญิงและเด็ก และมันเป็นสิ่งที่ผิดที่จะเรียกร้องให้ทางทหารและครอบครัวออกมาเสียสละ หรือเรียกร้องให้พวกเขากลับไปเดินเส้นทางเดิม และมีส่วนร่วมในความหายนะนี้อีก" สำนักข่าวซินหัวรายงาน