แถลงการณ์จากโฆษกประจำตัวเปิดเผยว่า นายบันชี้ว่า เพื่อผลประโยชน์อันดีแก่ทั้งสองฝ่าย จึงต้องมีการ "หลีกเลี่ยงการกระทำที่อาจจะยกระดับความรุนแรงด้วยการใช้มาตรการอย่างทันท่วงที" เพื่อยุติการปะทะกันระหว่างสองฝ่ายและไม่ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตและความเสี่ยงสูงขึ้นมากไปกว่านี้ ซึ่งจะนำไปสู่สันติภาพและความมั่นคงในภูมิภาคใในที่สุด
นายบันได้เรียกร้องให้ทั้งสองฝ่าย "ดำเนินการตามทิศทางที่กำหนดไว้" พร้อมเสริมว่า เขาไม่เชื่อว่าความขัดแย้งระหว่างชาวอิสราเอลและปาเลสไตน์ สามารถแก้ไขได้ด้วยการใช้กำลังทหารจากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง
แถลงการณ์ระบุว่า นายบันรู้สึกตื่นตระหนกที่ทราบว่าสถานการณ์ภายในและรอบๆฉนวนกาซา "ยังดูจะย่ำแย่ลง" แม้ว่าทางคณะมนตรีความมั่นคงของยูเอ็นจะได้เรียกร้องให้มีการหยุดยิงก็ตาม ซึ่งอาจบั่นทอนความปลอดภัยของประชาชนทั้งชาวอิสราเอลและปาเลสไตน์
เลขาฯ UN ได้กล่าววิจารณ์อย่างรุนแรง ต่อการยิงจรวดจากฝั่งปาเลสไตน์ และเรียกร้องให้มีการยุติการ "โจมตีไม่ถูกต้อง" ทันที
ในขณะเดียวกัน เลขาฯยูเอ็นได้แสดงความเสียใจเป็นอย่างยิ่งต่อครอบครัวชาวปาเลสไตน์ที่ได้รับผลกระทบจากปฏิบัติการทหารของอิสราเอล โดยเขาชี้ว่าชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตมากเกินไปแล้ว และการโจมตีภาคพื้นจากอิสราเอลก็มีแต่จะทำให้มียอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น อีกทั้งทำให้ประชาชนต้องเดือดร้อนอย่างหนัก
แถลงการณ์ดังกล่าวระบุว่า "ท่านเลขาฯรู้สึกว่าตนเองนั้นมีส่วนที่ต้องรับผิดชอบต่อชาวปาเลสไตน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบนฉนวนกาซา ซึ่งไม่ได้รับอิสระและศักดิ์ศรีอย่างที่ควรจะเป็น"
นับตั้งแต่ที่อิสราเอลได้เริ่มปฏิบัติการ “Operation Protective Edge" เพื่อสกัดการปล่อยจรวดโจมตีจากฉนวนกาซา มีประชาชนชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตถึง 170 ราย บาดเจ็บอีก 1,154 ราย โดยยูเอ็นคาดว่า ผู้เสียชีวิตราย 80% นั้นเป็นเพียงประชาชนธรรมดา
เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา คณะมนตรีความมั่นคงของยูเอ็น ซึ่งมีความวิตกกังวลเป็นอย่างยิ่งต่อสถานการณ์ความขัดแย้งที่เกิดขึ้น ได้ออกแถลงการณ์เรียกร้องการหยุดยิงระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์ ตลอดจนการออกมาตรการคุ้มครองประชาชน สำนักข่าวซินหัวรายงาน