เขาระบุว่า ทางเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้ก่อเหตุปะทะกับตำรวจได้ 120 คน ซึ่งกินเวลาราว 3 ชั่วโมงในกรุงบัวโนสไอเรส
ภายหลังเกมการแข่งขัน บรรดาแฟนบอลต่างมารวมตัวกันที่อนุสาวรีย์โอเบลิซค์ เพื่อแสดงเสียงสนับสนุนทีมฟุตบอลอาร์เจนตินาหลังจากที่สามารถคว้าอันดับสองในศึกบอลโลก แต่ขณะที่ค่ำคืนดำเนินไปเรื่อยๆ บรรยากาศเฉลิมฉลองกลับทวีความรุนแรงขึ้น เมื่อกลุ่มบุคคลสวมหน้ากากเริ่มขว้างหินและทำลายทรัพย์สินสาธารณะ
เบอร์นีกล่าวกับสื่อมวลชนว่า "นั่นไม่ใช่เรื่องบังเอิญ หากแต่มีการวางแผนเอาไว้แล้ว"
"เรามีการดำเนินงานอย่างอดทนไม่รีบร้อน โดยเราสามารถแยกตัวกลุ่มผู้ชุมนุมและจับกุมพวกเขาได้" เบอร์นี่กล่าวถึงกลุ่มผู้ทำลายทรัพย์สิน และเสริมว่า "พวกเขาอยู่ในลักษณะคล้ายคนเมาอย่างหนัก"
เบอร์นี่กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ใช้แก็สน้ำตา กระสุนยาง และหัวฉีดน้ำ เพื่อขับไล่กลุ่มผู้ชุมนุม แต่ "การแทรกแซงภายใต้สภาวะดังกล่าวนั้นเป็นเรื่องที่ยากมากๆ เนื่องจากมีเด็กและเด็กเล็กในพื้นที่"
เขากล่าวว่า "เมื่อมีรถแล่นผ่านในบริเวณดังกล่าว กลุ่มผู้สวมหน้ากากได้บุกโจมตีและปล้นผู้โดยสาร" และได้กล่าวถึงผู้ที่ถูกจับกุมในฐานะ "อันธพาลที่ต้องการก่อให้เกิดความวุ่นวาย"
ด้านนายอัลเบอร์โต้ เครสเซนติ ผู้อำนวยการทั่วไป ศูนย์บริการช่วยเหลือทางการแพทย์ฉุกเฉิน (SAME) รายงานว่า เหตุความไม่สงบดังกล่าวมียอดผู้บาดเจ็บ 70 ราย "โดยเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ 15 ราย" สำนักข่าวซินหัวรายงาน