เธอชี้ว่า ไวรัสอีโบลาสามารถแพร่เชื้อได้ผ่านการสัมผัสโดยตรงกับของเหลวในร่างกายของผู้ติดเชื้อเท่านั้น
เธอเผยว่า แม้ว่าอาจจะมีโอกาสที่มีผู้ติดเชื้ออีโบลาอยู่บนเครื่องบิน แต่แนวโน้มที่ผู้โดยสารและพนักงานบนเครื่องบินจะสัมผัสของเหลวในร่างกายนั้นแทบจะไม่เกิดขึ้น
เธอเสริมว่า "ตามปกติแล้ว หากมีผู้ติดเชื้ออีโบลา พวกเขาจะมีอาการย่ำแย่จนไม่สามารถเดินทางได้"
นางนัตทอลล์ ระบุว่า "เนื่องจากเชื้ออีโบลามีโอกาสแพร่เชื้อบนเครื่องบินต่ำมาก ทาง WHO จึงมองว่าศูนย์กลางการขนส่งทางอากาศต่างๆไม่ได้เป็นสถานที่ที่มีความเสี่ยงสูงต่อการแพร่กระจายของเชื้ออีโบลา"
ทั้งนี้ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา WHO ได้ประกาศให้การแพร่ระบาดของเชื้ออีโบลาเป็นวาระฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระดับสากล พร้อมเสนอแนะให้นานาชาติร่วมมือกันควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้ออีโบลา และไม่ให้เกิดการแพร่เชื้อในวงกว้าง
ณ วันที่ 11 ส.ค. ประเทศกินี ไลบีเรีย ไนจีเรีย และเซียร์ราลีโอน มีผู้ติดเชื้ออีโบลาทั้งสิ้น 1,975 ราย ซึ่งเสียชีวิตไปแล้ว 1,069 ราย สำนักข่าวซินหัวรายงาน