"นโยบายของเราไม่ซับซ้อน กล่าวคือ หากกลุ่มฮามาสเปิดการโจมตี เราก็จะตอบโต้รุนแรงกว่าถึงเจ็ดเท่า" นายเนทันยาฮู กล่าวบนทีวี พร้อมเสริมว่าอิสราเอลจะดำเนิน "ทุกวิถีทาง" เพื่อ "กอบกู้สันติ" ทั่วประเทศ
สำหรับข่าวลือการลอบสังหารนายโมฮัมหมัด เดอีฟ ผู้นำฝ่ายทหารของกาซา ซึ่งอิสราเอลไม่ได้ออกมายืนยันถึงประเด็นดังกล่าวนั้น นายเนทันยาฮู กล่าวว่า "ผู้บัญชาการขององค์กรก่อการร้ายถือเป็นเป้าหมายที่ชอบด้วยกฎหมาย ไม่มีใครได้รับการคุ้มกัน"
ทั้งนี้ อิสราเอลได้เปิดการโจมตีทางอากาศบนบ้านของนายเดอีฟเมื่อวานนี้ ซึ่งได้คร่าชีวิตภรรยาและลูกสาวของเขา และส่งผลให้เกิดการโจมตีทางจรวดกว่า 100 ลูกสู่อิสราเอล อย่างไรก็ตามไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ
ด้านอิสราเอลได้เปิดการโจมตีทางอากาศตอบโต้ในวันเดียวกัน โดยทางเจ้าหน้าที่ฝั่งปาเลสไตน์รายงานว่า มีชาวปาเลสไตน์อย่างน้อย 20 รายเสียชีวิตนับตั้งแต่ข้อตกลงหยุดยิงล้มเหลว
ก่อนที่จะเกิดสถานการณ์ความรุนแรงในปัจจุบัน มีชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตไปแล้วกว่า 2,000 คน บาดเจ็บอีกราว 10,000 คน จากปฏิบัติการโจมตีของอิสราเอลในฉนวนกาซา ที่เริ่มต้นขึ้นเมื่อวันที่ 8 ก.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่มีประชาชนชาวอิสราเอลเสียชีวิต 67 ราย แยกเป็นทหาร 64 ราย ซึ่งเสียชีวิตลงจากการปะทะกับทหารปาเลสไตน์ ในปฏิบัติการภาคพื้นในฉนวนกาซา และพลเรือนอีก 3 ราย จากการโจมตีทางจรวดและปืนครกจากฝั่งกาซา สำนักข่าวซินหัวรายงาน