“องค์การสหประชาชาติมุ่งเน้นเรื่องการรับมือกับการระบาดอันร้ายแรงของไวรัสอีโบลาในแอฟริกาตะวันตก อย่างไรก็ตาม การโดยสารเครื่องบินขาเข้า และออกจากประเทศเหล่านั้นยังคงเป็นปัญหาอยู่" สเตฟาน ดูจาร์ริก โฆษกยูเอ็นกล่าว “แม้ว่ากฎเกณฑ์ในปัจจุบันเกี่ยวกับเที่ยวบินเข้าออกกลุ่มประเทศติดเชื้อ และข้อกำหนดต่างๆของเครื่องบินที่มาจากประเทศเหล่านี้จนถึงการเข้าไปยังสนามบินในประเทศเพื่อนบ้านจะเป็นเรื่องที่ยอมรับได้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะช่วยรับประกันอะไรได้"
โฆษกเน้นย้ำว่า มาตรการดังกล่าวไม่ใช่มาตรการที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการควบคุมการเข้ามาของเชื้ออีโบลา เพราะมาตรการที่ว่า “ไม่ได้บ่งชี้ให้ทราบเกี่ยวกับช่องทางการแพร่เชื้อไวรัสจากคนสู่คน"
“สิ่งสำคัญ 3 ประการที่ทุกคนควรจำให้ขึ้นใจก็คือ หนึ่ง อีโบลาไม่ได้ติดต่อทางอากาศ และไม่มีแนวโน้มแพร่เชื้อผ่านทางน้ำดื่ม หรืออาหาร สอง ผู้ติดเชื้ออีโบลาจะไม่สามารถแพร่เชื้อได้จนกว่าจะแสดงอาการออกมา สาม อีโบลาจะติดต่อได้ด้วยการสัมผัสเลือด หรือของเหลวจากร่างกายผู้ป่วยโดยตรง" ดูจาร์ริกกล่าว
นอกจากนี้ โฆษกยูเอ็นระบุว่า เจ้าหน้าที่เฝ้าระวังโรคควรได้รับการชี้แจง และทำความเข้าใจเกี่ยวกับกฎเกณฑ์อย่างถูกต้องเช่น ผู้ติดเชื้ออีโบลาที่แสดงอาการติดเชื้อสามารถระบุตัวได้ก่อนจะขึ้นเครื่องบิน และระงับการเดินทางของผู้ป่วยเหล่านั้น
ส่วนเจ้าหน้าที่เสริมก็อาจตรวจสอบผู้โดยสารขาเข้าประเทศหากจำเป็น รวมถึงใช้กฎระเบียบในการแยกผู้ป่วยให้อยู่ในพื้นที่ควบคุม และการตรวจสอบยืนยันการติดเชื้อ นายดูจาร์ริกเสริม
“แนวโน้มของกฎระเบียบด้านเที่ยวบินในปัจจุบันกำลังส่งผลกระทบที่ไม่พึงประสงค์ต่อความพยายามในการควบคุมเชื้ออีโบลา" เขาแสดงความเห็น “กฎระเบียบของเที่ยวบินในขณะนี้กำลังเป็นอุปสรรคต่อการทำงานของผู้เชี่ยวชาญระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมการดำเนินงาน"
ทั้งนี้ นายดูจาร์ริก เน้นย้ำว่า ระเบียบข้อบังคับของเที่ยวบินกำลังฉุดรั้งศักยภาพขององค์กรให้ความช่วยเหลือต่างๆที่ส่งคณะทำงานมาช่วยรับมือ และบรรเทาวิกฤตดังกล่าว
“ศักยภาพของแผนงานที่เกี่ยวกับการควบคุมการระบาดด้วยการขนส่งอุปกรณ์ และวัสดุจำเป็นไปยังพื้นที่โรคระบาดก็ยังถูกขัดขวางเป็นอย่างยิ่งด้วยเช่นกัน" โฆษกยูเอ็นระบุ “กฎระเบียบของเที่ยวบินทำให้เกิดการโดดเดี่ยวทางการทูต และเศรษฐกิจของประเทศกลุ่มติดเชื้อ และยังทำให้ประเทศเหล่านั้นต้องเสื่อมเสียชื่อเสียงมากยิ่งขึ้นเช่นเดียวกับพลเมืองในประเทศที่กำลังเผชิญอยู่ สำนักข่าวซินหัวรายงาน