การประชุมผ่านทางไกลจัดขึ้นระหว่างนายกรัฐมนตรีเดวิด คาเมรอนของอังกฤษ ประธานาธิบดีบารัค โอบามาของสหรัฐ ประธานาธิบดีฟรองซัวส์ ออลลองด์ของฝรั่งเศส นายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคลของเยอรมนี และนายกรัฐมนตรีมัตเตโอ เรนซีของอิตาลี
แถลงการณ์ของการประชุมระบุว่า บรรดาผู้นำต่างมุ่งประเด็นไปที่การระบาดของอีโบลาในแอฟริกาตะวันตก และเห็นพ้องว่าเป็นภาวะฉุกเฉินทางด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศที่รุนแรงที่สุดในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ โดยประชาคมระหว่างประเทศจำเป็นต้องดำเนินมาตรการมากขึ้นและรวดเร็วขึ้น เพื่อหยุดการระบาดของอีโบลาในภูมิภาคดังกล่าว
ผู้นำประเทศที่เข้าร่วมประชุมต่างเปิดเผยว่า แต่ละประเทศจะช่วยเหลือประเทศที่ได้รับผลกระทบจากอีโบลา และเพิ่มความร่วมมือในระดับนานาชาติ เพื่อรับมือกับสถานการณ์ที่มีความเร่งด่วนมากที่สุดในอันดับแรกๆ ซึ่งประกอบด้วย การเพิ่มงบประมาณระหว่างประเทศในกรณีอีโบลา การเพิ่มจำนวนบุคลากรที่ได้รับการฝึกอบรมเพื่อทำงานในภูมิภาคซึ่งได้รับผลกระทบ รวมถึงการป้องกันการแพร่ระบาดของโรค และกระบวนการอพยพผู้ที่ได้รับผลกระทบ
ทั้งนี้ นายกฯอังกฤษได้เสนอให้บรรดาผู้นำใช้โอกาสระหว่างการประชุม ที่จะจัดขึ้นในมิลานวันศุกร์นี้ และในการประชุมสภายุโรปในสัปดาห์หน้า เพื่อหารือถึงสิ่งที่ยุโรปสามารถดำเนินการเพิ่มเติม เพื่อหยุดการระบาดของโรค
นอกเหนือจากประเด็นโรคอีโบลา บรรดาผู้นำได้อภิปรายเกี่ยวกับความพยายามระดับสากล เพื่อปราบปรามกลุ่มรัฐอิสลาม (IS)
โฆษกของการประชุมเปิดเผยว่า กลุ่มผู้นำเห็นพ้องกันอย่างชัดเจนว่า จำเป็นต้องดำเนินการเพิ่มเพื่อสนับสนุนแนวทางด้านการเมืองที่ครอบคลุมในอิรัก และฝึกฝนกองกำลังท้องถิ่นในอิรักและซีเรีย เพื่อหยุดกลุ่ม IS ในส่วนภาคพื้นดิน พร้อมด้วยการสนับสนุนทางอากาศจากกลุ่มพันธมิตรนานาชาติ
บรรดาผู้นำยังกล่าวถึงความสำคัญในการผลักดันให้รัฐบาลอิรัก พยายามเข้าไปมีส่วนร่วมในชุมชนนิกายสุหนี่ เพื่อโดดเดี่ยวทางการเมืองกลุ่ม IS
ในประเด็นสุดท้าย ที่ประชุมได้แลกเปลี่ยนความเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์ในยูเครน ก่อนการประชุมที่กรุงมิลานวันศุกร์ระหว่างผู้นำยุโรป ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซีย และประธานาธิบดีเปโตร โปโรเชนโกของยูเครน
ผู้นำที่เข้าร่วมประชุมเห็นพ้องว่า ประชาคมระหว่างประเทศจำเป็นต้องช่วยเหลือรัฐบาลยูเครนอย่างต่อเนื่อง ในการแก้ไขปัญหาด้านเศรษฐกิจที่ยูเครนเผชิญอยู่ ผ่านการปฏิรูปประเทศที่จำเป็น สำนักข่าวซินหัวรายงาน