นายสเตฟาน ดูจาร์ริค โฆษกสหประชาชาติ (ยูเอ็น) เปิดเผยว่า องค์การอนามัยโลกแห่งสหประชาชาติ (WHO) ได้ออกโรงเตือนถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสอีโบลาที่ย่ำแย่ลงอย่างต่อเนื่องในประเทศกินี ไลบีเรีย และเซียร์ราลีโอน
"มีผู้ป่วยรายใหม่ๆเพิ่มขึ้นในกินี เนื่องจากจำนวนผู้ป่วยที่พุ่งขึ้นในกรุงโกนากรี และเขตโกยาห์ซึ่งอยู่ละแวกใกล้เคียง" นายดูจาร์ริคเปิดเผยในการแถลงข่าวประจำวันโดยขยายความว่า เป็นที่เกือบแน่นอนว่าในไลบีเรียมีการรายงานจำนวนผู้ป่วยในกรุงมอนโรเวียน้อยกว่าความเป็นจริงมาก ขณะที่ในเซียร์ราลีโอนนั้น ยังเกิดการแพร่ระบาดอย่างรุนแรงในกรุงฟรีทาวน์และพื้นที่ใกล้เคียง
"ตัวเลขล่าสุดของ WHO รายงานว่ามีจำนวนผู้ป่วยรวมทั้งสิ้น 8,997 รายใน 7 ประเทศ และเสียชีวิต 4,493 ราย โฆษกยูเอ็นกล่าวว่า "เจ้าหน้าที่สาธารณสุขได้ทุ่มเทอย่างหนักในการปราบอีโบลา โดยมีผู้ติดเชื้อแล้ว 427 ราย และเสียชีวิต 236 ราย"
"จะมีห้องปฏิบัติการเพิ่มขึ้นใน 3 จังหวัดแอฟริกาตะวันตกในสัปดาห์ถัดจากนี้ เนื่องจากห้องปฏิบัติการเคลื่อนที่ของรัสเซียที่กินีจะใช้การได้ ส่วนห้องปฏิบัติการของกรมสาธารณสุขอังกฤษจะเริ่มทดสอบการวินิจฉัยในพื้นที่เวสเทิร์น รูรัล ในเซียร์ราลีโอน" โฆษกยูเอ็นกล่าว
นอกจากนี้กองทุนประชากรแห่งสหประชาชาติ (UNFPA) เตือนว่า อีโบลาที่กำลังแพร่ระบาดอยู่นี้ยังทำให้บั่นทอนภาวะการตั้งครรภ์ที่กำลังดีขึ้นในกินี ไลบีเรีย และเซียร์ราลีโอนอีกด้วย
"ประเมินว่าผู้หญิง 800,000 คนใน 3 ประเทศนี้น่าจะให้กำเนิดบุตรในอีก 12 เดือนข้างหน้า แต่หญิงตั้งครรภ์จำนวนมากกลัวหรือบ่ายเบี่ยงที่จะไปสถานพยาบาลที่เนืองแน่น"
UNFPA ระบุว่า จะต้องมีการจัดสรรเงิน 64.5 ล้านดอลลาร์ให้กับงานบริการสาธารณสุขด้านการเจริญพันธุ์รวมถึงแม่และเด็กภายใน 3 เดือนข้างนี้ สำนักข่าวซินหัวรายงาน