นายสเตฟาน ดูจาร์ริก โฆษกของเลขาธิการยูเอ็นเปิดเผยว่า นายบันเชื่อว่าข้อจำกัดเหล่านี้ ได้สร้างแรงกดดันอย่างมากต่อผู้ปฏิบัติงานสาธารณสุข และผู้ที่อยู่แนวหน้าในการรับมือกับอีโบลา
"เจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่เดินทางกลับเป็นบุคคลชั้นยอด ซึ่งอุทิศตนเองเพื่อมนุษยธรรม" นายดูจาร์ริกกล่าวในนามของนายบัน และเสริมว่า "พวกเขาไม่ควรอยู่ภายใต้ข้อจำกัดต่างๆ ซึ่งไม่ได้ตั้งอยู่บนหลักการทางวิทยาศาสตร์"
เลขาธิการยูเอ็นแสดงความเห็นดังกล่าว หลังพยาบาลสหรัฐรายหนึ่งคัดค้านการที่ถูกกักตัวไว้ในนิวเจอร์ซี หลังเดินทางกลับจากการไปเป็นอาสาสมัครดูแลผู้ป่วยในเซียร์ราลีโอน โดยพยาบาลคนดังกล่าวชื่อเคซี ฮิกคอกซ์ ได้ถูกแยกตัวออกไปอยู่ในเต็นท์นอกโรงพยาบาลสำคัญที่สนามบินนานาชาตินิวอาร์ก นับตั้งแต่ลงจากเที่ยวบินเมื่อวันศุกร์ และได้รับการปล่อยตัวเมื่อวานนี้
รัฐต่างๆ ในสหรัฐได้มีการบังคับใช้นโยบายกักกัน ซึ่งรวมถึง นิวยอร์กและอิลลินอยส์ ส่วนประเทศอื่นๆ เช่น อิตาลี มีรายงานการใช้ข้อจำกัดที่คล้ายคลึงกัน
นายบันเน้นว่า ทางที่ดีที่สุดสำหรับประเทศต่างๆ ในการป้องกันประเทศตนจากอีโบลา คือการหยุดการระบาดที่ต้นทางในแอฟริกาตะวันตก และแสดงความเห็นว่า "การกระทำเช่นนี้ต้องการแรงสนับสนุนสำคัญจากเจ้าหน้าที่สาธารณสุขระหว่างประเทศ และเพื่อตอบแทนการสนับสนุนดังกล่าว เรามีหน้าที่ในการดูแลคนเหล่านี้"
วิกฤตอีโบลาดได้สร้างการคุกคามมากขึ้นต่อประชาคมระหว่างประเทศ โดยองค์การอนามัยโลกเปิดเผยในรายงานล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า เจ้าหน้าที่สาธารณสุขติดเชื้ออีโบลาทั้งหมด 450 คน และ 244 คนเสียชีวิตแล้ว สำนักข่าวซินหัวรายงาน