นายสุปรียาดีระบุว่า “บริเวณที่เกิดเหตุมีสภาพอากาศที่เลวร้ายมาก โดยมีทั้งเมฆปกคลุม ฝนตก และลมพายุรุนแรง ส่งผลให้เกิดคลื่นสูงถึง 4 เมตร ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการค้นหาจุดที่เครื่องบินตก ในขณะเดียวกัน กระแสลมที่บริเวณดังกล่าวยังมีความเร็วสูงถึง 45 น๊อต"
นายสุปรียาดีระบุว่า สภาพอากาศเช่นนี้ทำให้ทีมค้นหาจากนานาชาติไม่สามารถนำกล้องถ่ายภาพใต้น้ำลงไปตรวจสอบวัตถุที่สงสัยว่าอาจจะเป็นชิ้นส่วนของเครื่องบินที่ประสบอุบัติเหตุได้
“นอกจากนี้ กระแสน้ำใต้ทะเลยังมีความรุนแรงเช่นเดียวกัน ส่วนพื้นทะเลที่จุดดังกล่าวยังเต็มไปด้วยตะกอนซึ่งทำให้สามารถมองเห็นได้ไกลสุดแค่เพียง 2 เมตร ส่งผลให้กล้องใต้นำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ" เขากล่าว
ทั้งนี้ สำนักงานกู้ภัยแห่งชาติของอินโดนีเซียได้ค้นพบวัตถุที่สงสัยว่าอาจจะเป็นชิ้นส่วนของเครื่องบินทั้งหมด 4 ชิ้นในพื้นที่ปฏิบัติการค้นหาใกล้กับเกาะบอร์เนียว สำนักข่าวซินหัวรายงาน