นายคีย์กล่าวในแถลงการณ์ว่า รัฐบาลนิวซีแลนด์ตัดสินใจดำเนินภารกิจการฝึกฝนด้านการทหารในอิรัก เนื่องจากนิวซีแลนด์เป็นส่วนหนึ่งของความร่วมมือระดับนานาชาติ เพื่อต่อต้านกลุ่มรัฐอิสลามแห่งอิรักและเลแวนต์ (ISIL)
บุคลากรทางทหารของนิวซีแลนด์จะเข้าร่วมภารกิจที่ไม่เกี่ยวข้องกับการรบ ในการฝึกฝนกองกำลังความมั่นคงของอิรักเพื่อให้เตรียมตัวต่อสู้กับกลุ่ม ISIL ได้ดียิ่งขึ้น
"ความสามารถของกลุ่ม ISIL ในการปลุกปั่นกลุ่มอิสลามหัวรุนแรงนั้น ไม่เพียงแต่เป็นการคุกคามเสถียรภาพในตะวันออกกลางเท่านั้น แต่รวมถึงระดับท้องถิ่นและระดับภูมิภาคด้วย"
ผู้นำนิวซีแลนด์เสริมว่า ความโหดเหี้ยมของกลุ่ม IS ทวีรุนแรงยิ่งขึ้น และการกระทำอันโหดร้ายดังกล่าวทำให้กลุ่มความร่วมมือนานาชาติ 62 ประเทศเข้าร่วมต่อสู้กับกลุ่ม IS
"เราได้พิจารณาทางเลือกต่างๆ อย่างระมัดระวัง เพื่อขยายการมีส่วนร่วมในความร่วมมือซึ่งนอกเหนือไปจากการให้ความช่วยเหลือทางมนุษยธรรม เรามีหน้าที่สนับสนุนเสถียรภาพและหลักกฎหมายสากล"
บุคลากรทางทหารของนิวซีแลนด์จะเดินทางไปที่ Taji Military Complex ซึ่งอยู่ทางเหนือของกรุงแบกแดด เพื่อฝึกฝนหน่วยต่างๆ ในกองกำลังความมั่นคงอิรัก และมีแนวโน้มว่าอาจจะปฏิบัติภารกิจร่วมกับออสเตรเลีย
ทั้งนี้ ภารกิจระยะเวลา 2 ปีดังกล่าว ซึ่งมีแนวโน้มเริ่มต้นตั้งแต่เดือนพ.ค. จะได้รับการพิจารณาทบทวนอีกครั้งหลังผ่านไป 9 เดือน
"บุคลากรที่ส่งไปที่ทาจินั้นมีจำนวนมากกว่า 106 ราย และจะมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายอื่นๆ เดินทางไปสำนักงานใหญ่และหน่วยสนับสนุนต่างๆ ในภูมิภาคด้วย โดยจำนวนบุคลากรทั้งหมดจะมากกว่า 143 ราย" นายคีย์กล่าว "ภารกิจการฝึกฝนดังกล่าวไม่ได้ดำเนินไปโดยปราศจากอันตราย และนี่ไม่ใช่การตัดสินใจอย่างผิวเผิน ผมต้องการการรับประกันว่าคนของเราจะปลอดภัยเท่าที่เป็นไปได้ ขณะที่ปฏิบัติงานในทาจิ เราจะดำเนินการร่วมกับอิรักต่อในสัปดาห์ข้างหน้านี้ เพื่อให้ได้รับการรับรองว่าบุคลากรของเราได้รับการปกป้องทางกฎหมายที่ดีที่สุด"
นายกฯนิวซีแลนด์กล่าวว่า "เราตระหนักว่าการฝึกฝนด้านการทหารเพียงอย่างเดียวจะไม่ช่วยแก้ปัญหาเรื่องกลุ่ม ISIL ในอิรัก นั่นเป็นสาเหตุว่าทำไมเราจึงเพิ่มความพยายามทางการทูต และกำลังพิจารณาทางเลือกหลายทางเพื่อสนับสนุนความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมเพิ่มเติม" สำนักข่าวซินหัวรายงาน