การซ้อมรบดังกล่าวใช้ทหารต่อสู้อากาศยานกว่า 2 พันนาย และใช้อาวุธมากกว่า 500 รายการ โดยจะมีขึ้นจนถึงวันที่ 10 เม.ย.
ทั้งนี้ การซ้อมรบมีขึ้นทางใต้ของรัสเซีย รวมทั้งที่ฐานทัพรัสเซียในอาร์เมเนีย และในภูมิภาคไครเมียที่รัสเซียผนวกดินแดนในปีที่แล้ว
การซ้อมรบดังกล่าวถูกมองว่าเป็นการแสดงแสนยานุภาพของรัสเซียให้ชาติตะวันตกเห็น หลังจากที่ความสัมพันธ์ทั้ง 2 ฝ่ายตกต่ำถึงขีดสุดนับตั้งแต่สงครามเย็น อันเนื่องจากการที่รัสเซียเข้าแทรกแซงในวิกฤตการณ์ยูเครน
นายปาฟโล คลิมคิน รมว.ต่างประเทศยูเครน กล่าวในวันอังคารว่า การฟื้นฟูความสัมพันธ์สู่ระดับปกติกับรัสเซียจะไม่มีทางเกิดขึ้นได้ หากรัสเซียไม่ส่งมอบคาบสมุทรไครเมียกลับสู่การปกครองของยูเครน หลังจากที่รัสเซียประกาศผนวกดินแดนดังกล่าวเมื่อ 1 ปีก่อนหน้านี้
นายคลิมคินยังกล่าวว่า ชายแดนระหว่างยูเครนและรัสเซียจะต้องถูกปิดตายเพื่อแก้ไขปัญหาการสู้รบทางตะวันออกของยูเครนระหว่างกองกำลังของรัฐบาล และกลุ่มแบ่งแยกดินแดนที่มีรัสเซียหนุนหลัง
โฆษกองค์การสหประชาชาติ (UN ) เปิดเผยโดยอ้างข้อมูลจากสำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนของ UN (OHCHR) ว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุสู้รบในยูเครนนับตั้งแต่เดือนเม.ย.ปีที่ผ่านมามีจำนวนมากกกว่า 6,000 รายแล้ว ถึงแม้มีการทำข้อตกลงหยุดยิงก็ตาม
ข้อตกลงสันติภาพครั้งล่าสุดมีขึ้นหลังจากการเจรจาระหว่างฝรั่งเศส เยอรมนี รัสเซีย และยูเครน ที่เมืองมินส์เมื่อวันที่ 12 ก.พ.ที่ผ่านมาประสบความสำเร็จ โดยมีจุดประสงค์เพื่อยุติความขัดแย้งซึ่งส่งผลให้ประชาชนเสียชีวิตไปแล้วมากกว่า 5,300 รายในเวลานั้น