ในบทความที่ได้รับการตีพิมพ์บนวารสาร New England Journal of Medicine ผู้ร่วมก่อตั้งไมโครซอฟท์รายนี้เปิดเผยว่า การแพร่ระบาดของไวรัสอีโบลา ซึ่งได้คร่าชีวิตผู้คนกว่า 10,000 รายในกินี เซียร์ราลีโอน และไลบีเรีย เป็นทั้ง "ความล้มเหลวระดับโลก" และ "เครื่องเตือนใจ"
"มีโอกาสเป็นไปได้สูงว่าจะเกิดการแพร่ระบาดที่รุนแรงกว่าในราว 20 ปีข้างหน้า" บิล เกตส์ ระบุในบทความ "แม้ว่าระบบที่เราใช้อยู่ในปัจจุบันนั้นสามารถรับมือกับอีโบลาได้เป็นอย่างดี แต่ก็อาจจะล้มเหลวได้กับการควบคุมโรคระบาดที่รุนแรงกว่า"
เกตส์ชี้ว่า ประเทศกลุ่มองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (NATO) มีการปฏิบัติงานร่วมกันอย่างต่อเนื่องเพื่อรับมือกับภัยคุกคามระดับโลกอย่างสงคราม แต่การซ้อมเพื่อรับมือกับการแพร่ระบาดอย่างจริงจังในสหรัฐเกิดขึ้นล่าสุดเมื่อปี 2544
เกตส์ เรียกร้องให้มีการจัดตั้ง "ระบบเดือนและตอบสนองการแพร่ระบาดทั่วโลก" ซึ่งจะไม่ได้เปิดโอกาสให้โลกสามารถรับมือกับการแพร่ระบาดที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติเพียงเท่านั้น แต่ยังรวมถึงภัยก่อการร้ายชีวภาพ
แม้ว่า องค์การอนามัยโลกมีเครือข่ายเตือนภัยและตอบสนองการแพร่ระบาดอยู่แล้ว แต่เกตส์มองว่าระบบดังกล่าวยังคง "ขาดแคลนบุคลากรและเงินสนับสนุน" สำนักข่าวซินหัวรายงาน