นายเซปป์ แบลตเตอร์ ประธานสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือฟีฟ่า กล่าวในพิธีเปิดการประชุมคองเกรสของฟีฟ่าในวันนี้ว่า เขาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับข่าวการทุจริตในองค์กรของฟีฟ่า และฟีฟ่ากำลังเผชิญกับสถานการณ์ยากลำบากที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ได้ส่งผลกระทบต่อวงการฟุตบอล และการประชุมคองเกรสในปีนี้
ครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกที่นายแบลตเตอร์ปรากฏตัวต่อสาธารณชน นับตั้งแต่ที่ทางการสหรัฐและสวิตเซอร์แลนด์เข้าจับกุมกรรมการในบอร์ดบริหารของฟีฟ่าหลายคนในข้อหาทุจริตและรับสินบนที่มีความเกี่ยวข้องกับการจัดการแข่งขันฟุตบอลโลกและการแข่งขันฟุตบอลระดับนานาชาติอีกหลายรายการ
"ผมไม่สามารถเฝ้าจับตาทุกคนได้ตลอดเวลา ซึ่งถ้ามีใครต้องการจะทำผิด พวกเขาก็จะพยายามปกปิดมัน" นายแบลตเตอร์กล่าว
"ผมเชื่อว่าจะมีข่าวร้ายปรากฎออกมาอีก ทำให้เรามีความจำเป็นต้องฟื้นความเชื่อมั่นในองค์กรของเรา"
ทังนี้ ฟีฟ่าจะจัดการเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานคนใหม่ในวันพรุ่งนี้ โดยมีผู้เสนอตัวเพียง 2 คน คือ นายแบลตเตอร์ ประธานฟีฟ่าคนปัจจุบัน ซึ่งดำรงตำแหน่งมานานถึง 17 ปี และเจ้าชายอาลี บิน อัล ฮุสเซน ของจอร์แดน
อย่างไรก็ดี นายแบลตเตอร์ต้องเผชิญกับศึกหนักในการเลือกตั้งครั้งนี้มากกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา หลังเกิดกรณีการจับกุมกรรมการในบอร์ดฟีฟ่าหลายคนในข้อหาทุจริตและรับสินบน
ข่าวอื้อฉาวดังกล่าวทำให้นายมิเชล พลาตินี่ ประธานสมาพันธ์ฟุตบอลยุโรป (ยูฟ่า) ออกมากล่าวว่า สมาชิกฟีฟ่าในยุโรปส่วนใหญ่ จะไม่ลงคะแนนให้แก่นายแบลตเตอร์ แต่จะหันไปเทคะแนนเสียงให้แก่เจ้าชายอาลี บิน อัล ฮุสเซน
นอกจากนี้ นายพลาตินี่ยังเปิดเผยว่า เขาได้ขอร้องเป็นการส่วนตัวให้นายแบลตเตอร์ลาออกจากตำแหน่ง แต่ก็ได้รับการปฏิเสธ