นายอูกล่าวว่า หลังจากที่เหตุอุทกภัยได้เกิดขึ้นครั้งแรกเมื่อเดือนมิ.ย. และครั้งที่ 2 เมื่อเดือนก.ค. และส.ค. สถานการณ์น้ำท่วมในเมียนมาร์อาจแย่ลงอีก จากการคาดการณ์ที่ว่า ปริมาณน้ำฝนในปลายเดือนหน้าจะสูงขึ้นกว่าปกติ
กรมอุตุนิยมวิทยาและอุทกวิทยาเปิดเผยว่า ขณะนี้น้ำได้เข้าท่วมไปยังทิศใต้ และมีแนวโน้มว่าจะทวีความรุนแรงและส่งผลกระทบไปยังบริเวณอื่นๆ
ทั้งนี้ นายอูได้เน้นย้ำให้มีการดำเนินการเกี่ยวกับสภาพอากาศอย่างมีประสิทธิภาพ โดยชี้ว่า มาตรการในการเตรียมพร้อมและป้องกันของประเทศยังคงบกพร่อง ซึ่งส่งผลให้เมียนมาร์มีภาวะเสี่ยงต่อการเกิดน้ำท่วมได้ง่ายขึ้น
ในขณะเดียวกัน กระทรวงสวัสดิการสังคม บรรเทาทุกข์และการตั้งถิ่นฐานเมียนมาร์รายงานว่า ล่าสุดพบยอดผู้เสียชีวิตจากอุทกภัยครั้งนี้อยู่ที่อย่างน้อย 69 ราย และมีผู้ได้รับผลกระทบกว่า 270,000 ราย
ในบรรดาเขตพื้นที่ภัยพิบัติทั้ง 4 ซึ่งประกอบด้วย รัฐยะไข่ รัฐชิน เขตสะกาย และเขตมะเกวนั้น รัฐยะไข่เป็นพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายมากที่สุด
กระทรวงเกษตรและชลประทานเมียนมาร์เปิดเผยว่า มีพื้นที่เกษตรกรรมกว่า 455,747 เฮคตาร์ ใน 13 เขตและรัฐของเมียนมาร์กำลังจมอยู่ใต้น้ำ โดยเขตบาโกมีพื้นที่เกษตรกรรมถูกน้ำท่วมขังกว่า 124,508 เฮกตาร์ สำนักข่าวซินหัวรายงาน