นายบาสกุต ทันซัค ระบุในแถลงการณ์ว่า "การขาดข้อมูลในยามจำเป็น อันเป็นข้อมูลที่อาจบรรเทาหรือแม้แต่ป้องกันไม่ให้วิกฤตินี้เกิดขึ้นนั้น นับเป็นเรื่องที่น่าสลดใจอย่างแท้จริง" พร้อมเรียกร้องให้รัฐบาลจีนและธุรกิจที่เกี่ยวข้องรับรองความโปร่งใสในการสอบสวน ทั้งต่อสาเหตุและผลกระทบจากการระเบิดในเมืองท่าใหญ่อย่างเทียนจิน
นายทันซัค ยังได้ออกมาวิจารณ์ถึง "การกีดกันการเข้าถึงข้อมูลด้านสุขภาพและความปลอดภัยในหมู่ประชาชน รวมถึงเสรีภาพของสื่อภายหลังเกิดเหตุ" ซึ่งเขามองว่า "เสี่ยงที่จะทำให้ยอดผู้ประสบภัยพิบัติครั้งนี้ปรับตัวเพิ่มขึ้นไปอีก" เนื่องจากผู้คนในพื้นที่ยังไม่มีความตระหนักถึงผลกระทบจากสารอันตรายที่อยู่รอบๆตัว
นายทันซัคชี้ว่า ทางการจีนควรมีการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับสารอันตรายเหล่านี้ ขณะที่ภาคธุรกิจจำเป็นต้องให้ความเคารพต่อสิทธิมนุษยชน ซึ่งรวมถึงการให้ข้อมูลข่าวสารอย่างมีประสิทธิภาพ
คนในวงการสื่อมวลชนจีนเปิดเผยว่า ทางการจีนได้สั่งห้ามไม่ให้สื่อจีนรายงานข่าวภัยพิบัติครั้งนี้ด้วยตนเอง โดยได้สั่งให้สื่อจีนรอรับรายงานสถานการณ์จากสำนักข่าวของรัฐบาลจีนหรือจากสำนักข่าวประจำเทียนจิน ซึ่งอยู่ภายใต้การควบคุมดูแลของพรรคคอมมิวนิสต์จีน
ทั้งนี้ ทางการเทียนจินรายงานว่า นับจนถึงเมื่อวานนี้ ยอดผู้เสียชีวิตจากภัยพิบัติครั้งนี้อยู่ที่ 114 ราย โดยมีผู้สูญหาย 65 ราย สำนักข่าวเกียวโดรายงาน